การรับมือกับตลาดหมีของบิตคอยน์

การรับมือกับตลาดหมีของบิตคอยน์

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับตลาดหมีกันก่อนว่าตลาดหมีคืออะไร

ตลาดหมี คือ สภาพของตลาดในช่วงที่ราคาตกหรือก็คือช่วงเวลาที่คนในตลาดมีความต้องการขายมากกว่าความต้องการซื้อ หรือที่บางคนเรียกว่าตลาดขาลง


บิตคอยน์ก็เคยเกิดช่วงตลาดหมีที่หนักหน่วงมาแล้วในช่วงปลายปี 2017 ถึง ปลายปี 2018 ซึ่งในช่วงเวลานั้นราคาของบิตคอยน์มีการลดลงสูงสุดถึง -84% เลยทีเดียว เพื่อที่จะเตรียมตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้ง  เราจะลองมาดูสถานการณ์เปรียบเทียบระหว่างปัจจุบันและสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตกัน โดย นักวิเคราะห์ชี้จุดเปรียบเทียบถึง 3 สิ่งด้วยกันคือ

1. ภาพรวมตลาดในปัจจุบันและในช่วงปี 2107-2018

โดยรอบก่อนราคาบิตคอยน์ได้ร่วงถึง -84% ซึ่งถ้าเทียบราคาในปัจจุบัน การที่จะทำให้ราคาร่วงถึง -84% นักวิเคราะห์มองว่าราคาบิตคอยน์ต้องร่วงไปที่ระดับ 11,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคาตรงนี้ก็เป็นเพียงคาดการณ์เท่านั้นไม่ได้บอกว่าจะลดลงไปถึง

2. วัฏจักร 4 ปี ของตลาดคริปโต

ภาพของการเคลื่อนไหวของราคาคริปโตที่มีนักลงทุนหลายๆคนเชื่อว่ารอบวัฏจักรราคาของคริปโตกำลังจะกลับมา โดยนักลงทุนมองว่ารอบลงทุน 4 ปี ของตลาดคริปโตจะกลับมาถึงนั้นได้ให้ความเห็นไว้ว่า หลังจากเหตุการณ์ Bitcoin Halving ในปี 2016 ราคาของบิตคอยน์ได้มีการทำจุดสูงสุดในช่วงปี 2017 แล้วต่อมาก็เกิดเหตุการณ์ราคาร่วงหนักในปลายปี 2017-2018

และการ Bitcoin Halving ครั้งล่าสุดเกิดในปี 2020 แล้วในปี 2021 ราคาของบิตคอยน์ก็ขยับสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แล้วตอนนี้ราคาก็เริ่มดิ่งลงอย่างหนัก เมื่อเทียบระยะเวลาการดิ่งลงของราคาอาจจะเกิดขึ้นไปจนถึงปลายปี 2022 ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามนี่ก็ยังเป็นเพียงข้อสังเกตเท่านั้น

3. สภาพเศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนรุนแรงขึ้น

ตั้งแต่ปี 2018 สภาพของตลาดการเงินในโลกของเรานับจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นทั้งถูกกระทบจากการเกิดโรคระบาด ทั้งการเกิดอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในหลายๆประเทศ รวมถึงการออกมาตรการมากำกับดูแลตลาดคริปโต

ซึ่งปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวไปอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเกิดตลาดหมีที่ยาวนานก็เป็นได้

และเราจะมาแนะนำ 4 สิ่งที่นักลงทุนควรทำเมื่อเจอกับสภาวะตลาดหมี

1. การซื้อโดยใช้รูปแบบของ DCA

การลงทุนในช่วงที่ตลาดเป็นแบบนี้ เราไม่จำเป็นต้องหยุดลงทุน สำหรับผู้ที่มีเงินทุนสำรอง ที่จะซื้อเมื่อราคาลดลง เราสามารถลงทุนต่อเนื่องในลักษณะ DCA (Dollar-cost averaging) ได้โดยเงินสำรองที่มีเราอาจจะนำมาแบ่งเป็นหลายส่วน และทยอยใช้ซื้อหลังจากที่ราคาลดลงไปอีก หรือเป็นการซื้อเฉลี่ยนั่นเอง

2. ใช้สัญญาณหรือเครื่องมือทางเทคนิคในการหาจุดลงทุน

ข้อนี้สำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ทางด้านกราฟ ซึ่งหากวิเคราะห์ผ่านกราฟก็จะมีเครื่องมือช่วยมากมายให้เลือกใช้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องมือเหล่านั้นจะถูกต้องเสมอไป แต่เครื่องมือเหล่านั้นจะเป็นตัวช่วยให้จับจุดสัญญาณได้ดีขึ้น อย่างเช่น RSI (Relative Strength Index) ที่ใช้เพื่อดู Overbought และ Oversold เป็นต้น

3. การแบ่งส่วนการลงทุนไปลงทุนกับหน่วยเหรียญต่างๆ

อย่างที่ทราบกันว่าเราไม่สามารถรู้จุดที่ต่ำที่สุดเพื่อที่จะลงทุน ดังนั้นการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในเหรียญคริปโตหลายๆตัวก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าจะลงทุนในเหรียญใดก็ได้ ก่อนที่จะลงทุนในเหรียญใดๆ นักลงทุนควรจะศึกษาและพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะเลือกลงทุน

4. อย่าตื่นตระหนก

ถึงจะเป็นคำเตือนที่ดูเหมือนจะง่ายแต่พอถึงเวลาเกิดขึ้นจริง การจัดการตัวเองไม่ให้ตื่นตระหนกก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนหลายๆคนอยู่ดี

เราไม่มีทางรู้ว่าราคาจะไปถึงเท่าไหร่แต่หากเรามีการเตรียมตัวรับมือที่ดีก็อาจจะทำให้เราสามารถอยู่รอดจากตลาดหมีก็เป็นได้

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ Apple store และ Google Play
You've successfully subscribed to Coins Blog - ประกาศ เรื่องราว และการอัปเดต
Great! Next, complete checkout to get full access to all premium content.
Error! Could not sign up. invalid link.
Welcome back! You've successfully signed in.
Error! Could not sign in. Please try again.
Success! Your account is fully activated, you now have access to all content.
Error! Stripe checkout failed.
Success! Your billing info is updated.
Error! Billing info update failed.