หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดว่าบิทคอยน์นั้นเป็นเรื่องชวนสับสน คุณไม่ใช่คนเดียวที่มีความคิดอย่างนั้น ชาวไทยหลายคนต่างก็ต้องการที่จะรู้ว่าบิทคอยน์นั้นคืออะไร จะสามารถหาซื้อบิทคอยน์ได้ที่ไหน และบิทคอยน์นั้นทำงานอย่างไร
แม้ว่าระบบเบื้องหลังของบิทคอยน์นั้นจะค่อนข้างซับซ้อน แต่ถึงอย่างนั้นตัวบิทคอยน์ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกับค่าสกุลเงินอื่นๆเช่น เงินบาทของไทย
บิทคอยน์นั้นก็เหมือนกับค่าเงินทั่วๆไป เป็นตัวกลางของการซื้อขายแลกเปลี่ยน และมีมูลค่าในตัวเอง สามารถแปลงเป็นเงินบาท และใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการจากผู้ขายได้ บิทคอยน์นั้นไม่ได้ถูกควบคุมด้วยรัฐบาลเพียงหรือองค์กรเพียงองค์กรเดียว ในส่วนของบริษัทที่ให้บริการบิทคอยน์ในไทยนั้นถูกควบคุมโดยสำนักงานคณกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ โดยภาพรวมนั้นบิทคอยน์นั้นเปรียบเสมือนการทำธุรกรรมธนาคารนั้นเอง
ธนาคารส่งเงินกันอย่างไร ?
การส่งเงินจากธนาคารหนึ่งไปสู่อีกธนาคารหนึ่งนั้นมีกระบวนการที่ซับซ้อนมากกว่าที่คุณคิด โดยมีกรณีที่แตกต่างกันออกไป เช่นจากสถานการณ์ต่างๆดังต่อไปนี้
สถานการณ์ที่1 : การส่งเงินภายในประเทศ
คุณติดเงินเพื่อนของคุณ 1000 บาท และเธอขอให้คุณคืนมันโดยการฝากเข้าไปที่บัญชีธนาคารของเธอ โดยคุณและเพื่อนของคุณนั้นมีบัญชีอยู่คนละธนาคารรายใหญ่ในประเทศไทย
เงิน 1000 บาท จะถูกโอนออกจากบัญชีของคุณและถูกส่งไปยังบัญชีธนาคารกลาง เมื่อธนาคารรายใหญ่ในประเทศไทยทำธุรกรรมต่อกัน กระบวนการเหล่านั้นจะดำเนินขึ้นบนฐานข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือที่ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Automated Clearing House (ACH) ซึ่งมีหน้าที่ในการดำเนินธุรกรรมจำนวนมากระหว่างธนาคาร
เมื่อธนาคารแห่งประเทศไทย ดำเนินกระบวนการทางธุรกรรมของคุณเรียบร้อย 1000 บาทของคุณจะไปสู่บัญชีธนาคารของเพื่อนของคุณ
สถานการณ์ที่ 2 : การส่งเงินสู่ต่างประเทศ
กระบวนการส่งเงินสู่ต่างประเทศนั้นจะมีความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย นั้นเพราะว่าปัจจุบันยังไม่มีสำนักหักบัญชีอัตโนมัติ หรือ ACH แบบทั่วโลกสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ดังนั้นธนาคารในประเทศจึงทำการส่งเงินโดยผ่านธนาคารตัวแทน ที่ซึ่งจะดำเนินกระบวนการทางธุรกรรมในประเทศต่างๆในนามธนาคารนั้นๆ
มาลองสมมุติกันว่าคุณนั้นทำงานอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์และต้องการจะส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวของคุณที่ประเทศไทย อินโฟกราฟฟิคด้านล่างจะช่วยประกอบให้เห็นภาพว่าการโอนเงินระหว่างประเทศโดยทั่วนั้นเป็นอย่างไรเมื่อคุณทำการส่งเงินจากธนาคารในประเทศสิงคโปร์ไปสู่ธนาคารในประเทศไทย
ในตัวอย่างนี้ธนาคารในประเทศสิงคโปร์ของคุณนั้นไม่มีสาขาอยู่ในประเทศไทย ดังนั้นแล้วธนาคารของคุณจึงต้องทำการส่งเงินไปที่ Standard Chartered ซึ่งเป็นธนาคารตัวแทนภายในสิงค์โปร์ และจะเห็นได้ว่า Standard Chartered ก็ไม่ได้มีธนาคารรายย่อยในประเทศไทยเช่นกัน
ดังนั้น Standard Chartered จะทำการส่งเงินไปยังธนาคารตัวแทนในประเทศไทยซึ่งก็คือ ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ HSBC
HSBC ทำการถอนเงินออกมาจากบัญชีของ Standard Chartered และทำการส่งไปยังบัญชีในประเทศไทยของครอบครัวคุณ จากนั้นธนาคารปลายทางจะทำการแปลงค่าเงินจาก ดอลลาร์สิงคโปร์ สู่เงินบาท
ธนาคารทั้งหลายเหล่านี้ส่งข้อความระหว่างประเทศเกี่ยวกับธุรกรรมหากันโดยใช้ระบบ โค้ด SWIFT (The Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication)
ข้อมูลพวกนี้ทำคุณมึนหัวหรือยัง? นี่เป็นเพียงการอธิบายย่างง่ายๆของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคุณทำการส่งเงินระหว่างธนาคาร ในความเป็นจริงแล้วมันมีความซับซ้อนมากกว่านี้มากและยังเกี่ยวเนื่องกับสำนักงานใหญ่ของธนาคารและธนาคารกลางอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเรื่องของภาวะแทรกซ้อนอื่นๆเช่น ถูกหักเวลา เวลาหักบัญชี อัตราความต่างสำหรับจำนวนเงินโอนที่ต่างกัน และอัตราแลกเปลี่ยนของเงิน
ธุรกรรมบิทคอยน์ทำงานอย่างไร
เมื่อเปรียบกับการทำธุรกรรมธนาคาร ธุรกรรมในบิทคอยนั้นมีความเรียบง่ายกว่ามาก ในการส่งบิทคอยน์นั้นคุณจำเป็นต้องมีกระเป๋าเงินบิทคอยน์เพื่อสำหรับเก็บ ส่ง หรือรับบิทคอยน์ และคุณก็ยังต้องมีที่อยู่กระเป๋าบิทคอยน์ของผู้รับอีกด้วย
ที่นี้มาลองสมมุติกันว่าคุณอยากส่งบิทคอย์ไปให้เพื่อนของคุณ เพื่อที่จะเริ่มธุรกรรมบิทคอยน์คุณต้องทำการคัดลอกหรือแสกน ที่อยู่ของกระเป๋าบิทคอยของเพื่อนคุณมาที่หน้ากระเป๋าบิทคอยน์ของคุณ แล้วทำการใส่จำนวนที่ต้องการส่ง
เมื่อคุณทำการกดปุ่ม”ส่ง” การทำธุรกรรมนั้นจะถูกดำเนินการโดยกระเป๋าเงินบิทคอยน์ของคุณและถูกส่งขึ้นไปยังเครือข่ายบิทคอยน์ ซึ่งเป็นที่สำหรับรับการยืนยันสำหรับความปลอดภัยและความสมบูรณ์ในการทำธุรกรรม โดยกระบวนการนี้สามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงตำแหน่งที่อยู่ของผู้ส่งและผู้รับ
เมื่อรายการทำธุรกรรมของคุณได้รับการยืนยัน นักขุดบิทคอยน์จะจัดกลุ่มมันเข้ากับรายการธุรกรรมอื่นๆเป็น “block” และเพิ่ม “block” นี้ขึ้นไปที่บิทคอยน์ “blockchain” – เป็นพื้นที่เปิดสำหรับเก็บประวัติการทำรายการของธุรกรรมบิทคอยน์ทั้งหมดที่เคยมี เมื่อรายการธุรกรรมของคุณได้ถูกเพิ่มไปที่ “block” กระเป๋าเงินบิทคอยน์ของคุณจะส่งคำยืนยันมาให้คุณ แล้วจากนั้นผู้รับจึงจะได้รับบิทคอยน์เข้าไปที่กระเป๋าของเขา
ด้วยบิทคอยน์ธนาคารตัวแทนจึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเนื่องจากผู้ใช้บิทคอยน์ทุกคนนั้นใช้งานอยู่บนระบบเครือข่ายเดียวกัน การทำธุรกรรมนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ผ่าน “blockchains” ที่ทำหน้าที่เหมือนกับ หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัย ผู้จัดงาน ผู้สื่อสาร และผู้บันทึกธุรกรรม
Disclaimer: การแลกเปลี่ยนบิทคอยน์และสกุลเงินเสมือนอื่นๆนั้นมีความเสี่ยงสูงและอาจไม่เหมาะกับทุกคน อ่านคำแนะนำ SEC ฉบับเต็มเพื่อทำความเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อ การถือ หรือการแลกเปลี่ยน คริปโตเคอเรนซี่