Coins.co.th | Coins.co.th

ข้อกฎหมายและความเป็นส่วนตัว

ข้อตกลงการใช้บริการ

วันที่เริ่มต้นบังคับใช้คือวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

ข้อตกลงการใช้บริการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้ใช้บริการไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้สำหรับการใช้งานของผู้ให้บริการซึ่งต่อไปจะเรียกกว่า “ผู้ใช้บริการ” กับ บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH Co., Ltd.) ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ให้บริการ” ในชื่อ coins.co.th ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “เว็บไซต์”

ผู้ใช้บริการจำเป็นที่จักต้องอ่านข้อตกลงการใช้บริการอย่างละเอียดรอบคอบในระหว่างการใช้บริการ

ข้อตกลงทั่วไป

การสมัครสมาชิกเพื่อขอรับบริการผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ให้บริการและหรือผ่านทางเว็บไซต์ในเครือของผู้ให้บริการ หรือผ่านช่องทางระบบการให้บริการจากโทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่อผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ให้บริการนั้น ผู้ใช้บริการยอมรับที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ภายใต้ข้อตกลงการใช้บริการฉบับนี้ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการใช้บริการข้อใดข้อหนึ่งภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงการใช้บริการฉบับนี้นั้น ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิที่จะยกเลิกการให้บริการโดยที่อาจจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้

โดยที่ผู้ให้บริการอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์หรือการสื่อสารผ่านทางระบบอิเล็คทรอนิคส์ในรูปแบบอีเมล์ (Email) และให้มีผลบังคับใช้ในวันเวลาดังกล่าวทันที

ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบระบบการให้บริการบางส่วนหรือทั้งหมดและสามารถระงับหรือยกเลิกการให้บริการในเวลาใดก็ได้โดยมิพักต้องบอกกล่าวให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้า

ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ใช้บริการปราศจากความรับผิดจากการกระทำใด ๆ ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากการแก้ไข หรือ ยกเลิกการให้บริการของผู้ให้บริการ รวมถึง การระงับ หรือ การยกเลิกการเชื่อมต่อการขอรับบริการของผู้ใช้บริการ เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นตามข้อตกลงการใช้บริการฉบับนี้

ผู้ใช้บริการยอมรับความเสี่ยงที่จะปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดโดยผู้ให้บริการในระหว่างการขอรับบริการดังนี้

• ในการซื้อสกุลเงินดิจิตอลด้วยบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตนั้นอาจจะมีการย้อนกลับของธุรกรรมได้ อาทิเช่น การชาร์จเงินย้อนหลัง, การชำระเงินย้อนกลับ, เหตุจากการแจ้งเตือนหรือว่าการที่ไม่ได้รับการยืนยัน จากการทำธุรกรรม

• ในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลนั้น อาจจะได้รับการยืนยัน โดยใช้ระยะเวลาเป็นช่วงเวลาหนึ่ง ที่ซึ่งโดยปกติจะได้รับการยืนยันภายในหนึ่งชั่วโมงหรือในบางครั้งอาจจะใช้เวลานานถึงหนึ่งวัน หรือในบางกรณีอาจจะยังคง ไม่สมบูรณ์ ถ้าปรากฏว่าอยู่ในสถานะ “Pending”

• ผู้ใช้บริการตกลงว่าข้อพิพาทที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการจะได้รับการแก้ไขตามข้อตกลงที่กำหนดในสัญญานี้หรือโดยผ่านอนุญาโตตุลาการและขอสละสิทธิในการเข้าสู่กระบวนในการฟ้องหมู่หรือการเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการเป็นหมู่คณะ (class-wide arbitration)

• การมีสกุลเงินดิจิตอลไว้ในการครอบครองของผู้ใช้บริการนั้นมีความเสี่ยงสูง โดยที่ราคาของสกุลเงินดิจิตอลนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้อย่างรวดเร็ว หรือในบางกรณีอาจจะมีการลดลงจนถึงศูนย์

1. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้บริการ

1.1 ผู้ให้บริการช่วยผู้ใช้บริการในทำธุรกรรมการชำระเงินและรับทำธุรกรรมกับบุคคลที่สามโดยถือว่าได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการต่อบุคคลที่สาม เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการให้เฉพาะในส่วนของกระเป๋าสกุลเงินดิจิตอล “digital currency wallet”โดยที่ผู้ใช้บริการสามารถใช้เก็บสกุลเงินดิจิตอลและใช้บริการในส่วนของการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล ผู้ให้บริการเป็นเพียงผู้ประสานงานเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการ อีกทั้งผู้ให้บริการไม่มีอำนาจควบคุมหรือต้องรับผิดชอบต่อการชำระค่าบริการหรือสินค้าผ่านช่องทางการการบริการ โดยผู้ให้บริการจะไม่มีการรับรองการมีตัวตนของผู้ใช้บริการรายอื่นหรือบุคคลใดๆ หรือรับรองว่าการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นสมบูรณ์ เนื่องจากผู้ให้บริการไม่ใช่ผู้ให้บริการทางการเงินในการโอนเงินตรา ผู้ให้บริการจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ใช้บริการเฉพาะในส่วนของบริการด้านธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลเท่านั้น.

1.2 ความสำคัญสำหรับการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการ โดยที่ผู้ให้บริการให้ความสำคัญกับการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการโดยถือให้เป็นความลับอย่างสูง โดยที่ขอความกรุณารบกวนผู้ใช้บริการพิจารณาตรวจทานในส่วนของนโยบายการเก็บข้อมูลของการให้บริการเพื่อที่จะทำความเข้าใจในส่วนของมาตรการการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้บริการและรวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการเองนั้น

1.3 ความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่นๆ: ถ้าผู้ใช้บริการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้รายอื่นผ่านการบริการของผู้ให้บริการนั้น ผู้ใช้บริการจะต้องเก็บข้อมูลนั้นๆเป็นความลับและจะสามารถใช้ข้อมูลนั้นสำหรับการบริการของผู้ให้บริการได้เท่านั้น ผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิที่จะทำการเปิดเผยข้อมูลของบุคคลใดบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลที่สามไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมหรือมีการนำไปใช้สำหรับการตลาด เว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้รับการยินยอมเท่านั้น อีกทั้งผู้ใช้บริการไม่มีสิทธิที่จะส่งอีเมล์ที่ไม่เป็นที่ต้องการให้สมาชิกท่านอื่นๆ ผ่านทางช่องทางการให้บริการของผู้ให้บริการนั้น

1.4 ทรัพย์สินทางปัญญา: “Coins.co.th” และ ตราสัญลักษณ์ หรือ เครื่องหมายใดๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวกับการบริการของ ผู้ให้บริการนั้น โดยที่รวมถึงเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ที่ซึ่งผู้ให้บริการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาโดยที่ได้ทำการจดทะเบียนไว้แล้วนั้นแต่เพียงผู้เดียว หรือเป็นของบุคคลอื่นซึ่งได้มีการอนุญาตให้ใช้สิทธินั้น

1.5 ความปลอดภัยของรหัสผ่านและการพัฒนาแก้ไขข้อมูลในรูปแบบอีเมล์และที่อยู่ของผู้ใช้บริการ: ผู้ใช้บริการเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับความปลอดภัยและการควบคุมสำหรับ ID, รหัสผ่าน, หรือว่ารหัสอื่นใดที่ใช้เข้าบริการต่างๆของผู้ให้บริการ และผู้ใช้บริการต้องรับผิดชอบที่จะพัฒนาแก้ไขข้อมูลอีเมล์และที่อยู่ในข้อมูลส่วนตัว “Profile” ของผู้ใช้บริการให้ตรงกับข้อมูลที่ถูกต้องจริงตามข้อมูลทางราชการปัจจุบัน

1.6 ผู้ใช้บริการตกลงที่จะให้ผู้ให้บริการติดต่อผู้ใช้บริการเกี่ยวกับรายละเอียดข้อมูลทางบัญชีของผู้ใช้บริการ และรวมถึงการให้บริการผ่านช่องทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ในรูปแบบอีเมล์ (Email)

1.7 การติดต่อผ่านระบบการสนับสนุนของผู้ให้บริการที่ support@coins.co.th จะปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด หรือผู้ใช้บริการสามารถส่งเป็นเอกสารมายัง บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH Co., Ltd.) ได้ตามที่อยู่ด้านล่าง

1.8 ชื่อผลิตภัณฑ์และชื่อบริษัททั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้า™ หรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียน® ของเจ้าของเครื่องหมายดังกล่าว การนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้งานนั้นไม่มีจุดประสงค์ที่จะกล่าวอ้างถึงการรับรองหรือความเกี่ยวเนื่องใด ๆ กับเจ้าของเครื่องหมายดังกล่าว

2. ข้อมูลทางด้านบัญชี

2.1 คุณสมบัติของผู้ใช้บริการ: ผู้ใช้บริการจะต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปสำหรับการที่จะใช้บริการ coins.co.th

2.2 คุณสมบัติของบัญชี: บัญชีที่ใช้บริการผ่านระบบการให้บริการของผู้ให้บริการ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และไม่สามารถถ่ายโอน ย้ายให้กับบุคคลอื่นใดได้ โดยที่ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ของผู้ให้บริการ กล่าวคือ ผู้ใช้บริการไม่สามารถสร้างบัญชีมากกว่าหนึ่งบัญชีได้ และหากปรากฏว่ามีการฝ่าฝืนจากทางผู้ใช้บริการเองนั้น ผู้ให้บริการสามารถ ระงับ หรือ ยกเลิกการให้บริการสำหรับบัญชีนั้นได้โดยมิพักต้องมีการบอกกล่าวล่วงหน้า

2.3 การยืนยันตัวตน: หากผู้ใช้บริการต้องการที่จะซื้อหรือขายสกุลเงินดิจิตอลกับผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการยอมรับที่จะให้ผู้ให้บริการพิจารณาการยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนโดยตรงกับทางผู้ให้บริการหรือผ่านบุคคลที่สาม

2.4 โปรแกรมจากผู้พัฒนาซอฟแวร์อื่นๆ: ถ้าผู้ใช้บริการประสงค์ที่จะใช้โปรแกรมจากผู้พัฒนาซอฟแวร์อื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อกับบัญชีของผู้ให้บริการนั้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผ่านโปรแกรมของบุคคลที่สาม ผู้ใช้บริการทราบดีว่าการที่ได้ใช้โปรแกรมนั้นๆ เชื่อมต่อกับบัญชีของผู้ใช้บริการเพื่อที่จะทำอะไรก็ตามแทนผู้ใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการกระทำนั้นๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ และผู้ใช้บริการรับรู้และตกลงว่าผู้ใช้บริการจะไม่สามารถบังคับให้ผู้ให้บริการ เป็นผู้รับผิดชอบ หรือชดเชย ใดๆ จากความผิดที่เกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งเป็นเหตุที่มาจากการเชื่อมต่อกับโปรแกรมจากผู้พัฒนาซอฟแวร์อื่นๆ ซึ่งผู้ใช้บริการได้ใช้ในการเชื่อมต่อเองนั้น อย่างไรก็ตามแต่ผู้ใช้บริการสามารถที่จะทำการยกเลิกการอนุญาตให้เข้าถึงได้ที่หน้า Account Settings (API) ทุกเวลา

2.5 ภาษี: ผู้ใช้บริการเป็นผู้รับผิดชอบที่จะตัดสินใจว่าจะมีภาษีเกี่ยวกับการชำระที่ผู้ใช้บริการได้กระทำหรือรับหรือไม่ และผู้ใช้บริการเป็นผู้รับผิดชอบที่จะเก็บ, รายงาน, และจ่ายภาษีอย่างถูกต้องไปยังหน่วยงานนั้นๆ โดยที่ผู้ให้บริการ จะไม่รับผิดชอบในการกำหนดว่าธุรกรรมของผู้ใช้บริการควรจะมีภาษีมาเกี่ยวข้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการเก็บ, การรายงาน, หรือ การจ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

2.6 บัญชีของผู้ใช้บริการที่อยู่ภายใต้การบริการของผู้ให้บริการนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีทางธนาคารใดๆ การบริการของเรานั้นมิใช่เครื่องมือทางการเงิน และ ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ ที่จะต้องจ่ายในกองทุน หรือ เงินตราใดๆ ที่ผู้ใช้บริการใช้ในการซื้อหรือขายเพื่อแลกเปลี่ยนหมุนเวียนเงินตราและสกุลเงินตราของผู้ให้บริการนั้น มิได้ถูกประกันโดยบริษัทหรือตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐใดๆทั้งสิ้น

2.7 กฎเกณฑ์และข้อจำกัด: ผู้ให้บริการมีสิทธิที่จะระงับ เพิกถอน หรือยกเว้นการให้บริการในส่วนของผู้ใช้บริการที่ไม่ได้มีการยืนยันข้อมูลส่วนตัวเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสและถูกต้อง ถ้าหากพอจะมีเหตุปรากฏได้ว่าผู้ใช้บริการมีการกระทำใดๆ ที่เป็นการฝ่าฝืนข้อตกลงการใช้บริการ หรือ ในอนาคตหากมีการจัดตั้งระบบการยืนยันข้อมูลส่วนตัวเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสและถูกต้องของผู้ใช้บริการ “KYC” ในระหว่างการตรวจสอบนั้น อาจจะมีการล่าช้าในการทำธุรกรรมใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอล หรือ การถ่ายโอน การทำธุรกรรมใดๆ ภายใต้การให้บริการของผู้ให้บริการนั้น โดยที่ผู้ให้บริการสามารถกำหนดสถานะ รอการยืนยัน “Pending” จึงทำให้เงินตราสารไม่สามารถถ่ายโอน ยักย้ายได้ ในระหว่างช่วงเวลารอการยืนยันนั้น โดยที่ผู้ให้บริการมีสิทธิที่จะปฏิเสธ ยกเลิก หรือมีการย้อนหลังการทำธุรกรรมใดๆ ของผู้ใช้บริการได้โดยที่ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด, การรายงานตามหมายศาล, คำสั่งศาล หรือ คำสั่งจากทางรัฐบาล หรือผู้ให้บริการควรจะพึงสงสัยได้ว่าเป็นการทำธุรกรรมที่เกิดความผิดพลาด หรือ หากเป็นการฝ่าฝืนข้อข้อตกลงการให้บริการของผู้ให้บริการโดยตรง

2.8 รายการที่ผู้ใช้บริการกระทำผิดจากเงื่อนไขการให้บริการ กล่าวคือ การทำรายการที่ผิดจากเงื่อนไขการให้บริการโดยวิธีการทำธุรกรรมทางการเงินเข้ามายังบัญชีของผู้ให้บริการนั้น ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาค่าปรับ ซึ่งอาจจะมีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการสูงสุด 3,000 บาท (สามพันบาทถ้วน) โดยให้ตกเป็นดุลพินิจพิจารณาของทางผู้ให้บริการเองเท่านั้น ต่อหนึ่งรายการ โดยที่ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการอนุญาตให้ดำเนินการหรือปฏิเสธการดำเนินการต่อเงินฝากหรือรายการที่เกี่ยวข้องอันเกิดจากการกระทำที่ผิดต่อเงื่อนไขการให้บริการ โดยที่ในส่วนของการดำเนินการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อที่จะคืนเงินให้กับผู้ใช้บริการนั้น ทางผู้ใช้บริการจะต้องมีการนำส่งหลักฐานเพิ่มเติม อาทิเช่น หลักฐานการทำธุรกรรมทางการเงิน เอกสารระบุตัวตนชื่อผู้โอนเป็นหลัก หลักฐานการเป็นเจ้าของบัญชีที่มีการทำรายการ ซึ่งให้ถือเป็นดุลพินิจพิจารณาของผู้ให้บริการแล้วแต่กรณี ตัวอย่างของรายการที่กระทำผิดเงื่อนไขการให้บริการนั้นรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงแค่ การทำธุรกรรมการฝากเงินเข้ามาโดยที่ไม่ได้ทำรายการสั่งซื้อ ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยเช็ค โอนเงินระหว่างบัญชี หรือ การทำธุรกรรมการฝากเงินด้วยวิธีอื่นใด หรือ การทำธุรกรรมการฝากเงินเข้ามาเกินจำนวนที่ทำรายการสั่งซื้อ หรือ การทำรายการสั่งซื้อภายหลังจากที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินเข้ามายังผู้ให้บริการ หรือ การทำธุรกรรมการฝากเงินอื่นใดที่เกินต่อข้อจำกัดของบัญชีผู้ใช้บริการ เป็นต้น

2.9 ข้อมูลประกอบบัญชีของผู้ใช้บริการที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน กล่าวคือ ทางผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคิดค่าปรับในส่วนของบัญชีของผู้ใช้บริการที่ไม่ถูกต้องหรือมีการกรอกข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน โดยอาจจะมีค่าธรรมเนียมปรับในการดำเนินการที่อาจจะเกิดขึ้นได้สูงสุดที่ 200 บาท (สองร้อยบาทถ้วน) โดยให้ตกเป็นดุลพินิจพิจารณาของทางผู้ให้บริการเองเท่านั้น ต่อการดำเนินการหนึ่งครั้งสำหรับการที่ผู้ใช้บริการแจ้งข้อมูลบัญชีที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนต่อผู้ให้บริการ

3. สกุลเงินดิจิตอล

3.1 ผู้ให้บริการ สามารถยกเลิกหรือย้อนกลับธุรกรรมการซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งรวมถึง ธุรกรรมที่ชำระด้วยวิธีที่สามารถย้อนกลับได้ โดยผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิในการยกเลิกรายการในทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็น รายการที่กำลังดำเนินการ หรือรายการที่สำเร็จแล้ว

ตัวอย่างของรายการที่ผู้ให้บริการสามารถยกเลิกรายการได้ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง รายการที่มีการกำหนดราคาผิดพลาด รายการที่มีผู้ร้องเรียนมายังผู้ให้บริการ หรือ รายการที่ไม่ได้ชำระในเวลาที่กำหนด เป็นต้น

3.2 ผู้ให้บริการจะไม่ทำการยกเลิกหรือทำธุรกรรมย้อนกลับสกุลเงินดิจิตอลต่อสกุลเงินดิจิตอล ตราบใดที่ธุรกรรมได้ถูกยอมรับและได้รับการยืนยันผ่านระบบเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain)

3.3 ผู้ให้บริการ จะเก็บเงินทั้งหมด 100% ของลูกค้าไว้และผู้ให้บริการจะไม่สามารนำ Fractional Reserve Lending มาใช้ได้

3.4 ในกรณีที่ผู้ให้บริการต้องใช้สกุลเงินดิจิตอลที่เก็บไว้รูปแบบออฟไลน์ ดังนั้นอาจจะมีความล่าช้าในการส่งสกุลเงินดิจิตอลโดยที่อาจจะต้องใช้เวลาถึง 72 ชั่วโมงในการส่งดังกล่าว

3.5 ผู้ให้บริการไม่สามารถการันตีมูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลได้ ผู้ใช้บริการยอมรับว่าราคาของสกุลเงินดิจิตอลสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการขึ้นหรือการลง หรือกระทั้งลดลงไปจนเหลือ 0 บาท (ศุนย์บาทถ้วน) ซึ่งผู้ใช้บริการรับรู้ว่าการถือสกุลเงินดิจิตอลนั้นมีความเสี่ยงสูงและผู้ใช้บริการตกลงที่จะชำระค่าสกุลเงินดิจิตอลตามที่ได้ทำการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของราคาของสกุลเงินดิจิตอลไปแล้วก็ตามแต่

3.6 ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนข้อจำกัดในจำนวนของการซื้อขาย และหรือการระงับการทำธุรกรรมตามความจำเป็นในแต่ละบัญชีของผู้ใช้บริการ ซึ่งถือเป็นดุลพินิจพิจารณาของผู้ให้บริการแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

3.7 การดำเนินงานของโปรโตคอลของสกุลเงินดิจิตอล: Coins.co.th ไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมโปรโตคอลของซอฟต์แวร์พื้นฐานที่ควบคุมการดำเนินงานของสกุลเงินดิจิตอลที่สามารถซื้อขาย และ/หรือ สนับสนุนผ่านทางแพลตฟอร์มของบริษัท โดยทั่วไปแล้วโปรโตคอลพื้นฐานเป็นโอเพนซอร์สที่ทุกคนสามารถใช้ คัดลอก แก้ไข และแจกจ่ายได้ เมื่อคุณใช้ Coins.co.th คุณรับทราบและยอมรับว่า (i) Coins.co.th ไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินงานของโปรโตคอลพื้นฐานและ Coins.co.th ไม่รับประกันถึงการทำงานการรักษาความปลอดภัยหรือความพร้อมใช้งานของโปรโตคอลเหล่านั้น และ (ii) โปรโตคอลพื้นฐานอาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในกฎการดำเนินงาน หรือที่เรียกกันว่า fork (การแยกตัว) ซึ่งการ fork นั้นอาจมีผลต่อค่าฟังก์ชันและหรือชื่อของสกุลเงินดิจิตอลที่คุณซื้อขายที่ Coins.co.th ในกรณีที่เกิดการ fork คุณได้ยอมรับว่า Coins.co.th อาจระงับการดำเนินงานของ Coins.co.th ชั่วคราว (โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้าหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า) และ Coins.co.th อาจ (b) ตัดสินใจที่จะไม่สนับสนุน (หรือหยุดสนับสนุน) โปรโตคอลที่ถูก forked ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม คุณมีโอกาสที่จะถอนสกุลเงินดิจิตอลจากแพลตฟอร์ม คุณรับทราบและยอมรับว่า Coins.co.th ไม่มีความรับผิดชอบใด ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับโปรโตคอลที่ถูก forked ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุน – Coins.co.th จะให้การสนับสนุนเพียง fork เดียวของแต่ละโปรโตคอลของสกุลเงินดิจิตอล โดยจะถูกพิจารณาตามที่บริษัทเห็นสมควร

3.8 Coins.co.th นั้นมีการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิตอลที่ผู้ให้บริการใช้ดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการตัดสินใจที่จะสนับสนุนเท่านั้น สกุลเงินดิจิตอลที่ผู้ให้บริการสนับสนุนนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ผู้ใช้บริการไม่ควรพยายามใช้บริการเว็บไซต์ในการจัดเก็บ ส่ง ร้องขอ หรือรับสกุลเงินดิจิตอลที่ผู้ให้บริการไม่สนับสนุนไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม Coins.co.th ไม่มีส่วนรับผิดชอบหรือรับผิดใดๆ ในการใช้บริการสกุลเงินดิจิตอลที่ผู้ให้บริการไม่สนับสนุน

3.9 ธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอล: Coins.co.th ดำเนินการจัดซื้อและหรือการขายสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับการสนับสนุนตามคำชี้แจงที่ได้รับจากผู้ใช้บริการและเราไม่รับประกันตัวตนของผู้ใช้บริการ ผู้รับ หรือบุคคลอื่นใดๆ ผู้ใช้บริการควรตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมต่างๆ ทั้งหมดก่อนที่จะดำเนินการส่งคำชี้แจงมาให้ทางผู้ให้บริการดำเนินการ ธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลจะไม่ได้รับการยืนยันเป็นระยะเวลาหนึ่งขณะที่รอการยืนยันการทำธุรกรรมที่จำเป็นโดยเครือข่ายสกุลเงินดิจิตอลเมื่อธุรกรรมดังกล่าวนั้นถูกส่งไปยังเครือข่ายสกุลเงินดิจิตอลแล้ว ธุรกรรมจะไม่ถือว่าสมบูรณ์หากอยู่ในสถานะรอดำเนินการ เงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมต่างๆ ที่อยู่ในสถานะรอดำเนินการจะได้รับการดำเนินการตามความเหมาะสมโดยจะไม่สามารถนำมาใช้ดำเนินธุรกรรมและจะไม่ถูกรวมอยู่ในยอดคงเหลือในบัญชี Coins.co.th ของคุณ ผู้ให้บริการอาจมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเครือข่าย (miner fees) ในการดำเนินธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลในนามของคุณ ผู้ให้บริการจะคำนวณค่าบริการเครือข่ายด้วยดุลยพินิจ ทั้งนี้แล้วผู้ให้บริการจะทำการแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงค่าบริการเครือข่ายก่อน หรือ ณ เวลาที่ผู้ใช้บริการดำเนินการธุรกรรม

3.10 ผู้ให้บริการจัดเก็บกุญแจสกุลเงินดิจิตอลส่วนตัวที่เราควบคุมทั้งหมดไว้อย่างปลอดภัยทั้งในรูปแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ ดังนั้นผู้ให้บริการจึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเรียกดูข้อมูลบางประเภทจากที่จัดเก็บแบบออฟไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลตามคำชี้แจงของผู้ใช้งานซึ่งอาจทำให้การดำเนินการธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลดังกล่าวล่าช้าเป็นเวลา 72 ชั่วโมงหรือมากกว่า ผู้ใช้งานรับทราบและยอมรับว่าธุรกรรมสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับการดำเนินการโดยผู้ให้บริการอาจมีความล่าช้า

3.11 การส่งสกุลเงินดิจิตอลไปยังกระเป๋า THB ของผู้ใช้งาน: สำหรับผู้ใช้งานที่ทำการรับสกุลเงินดิจิตอลไปยังกระเป๋า THB โดยตรงโดยใช้ที่อยู่กระเป๋าบิทคอยน์ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ประมวลผลการแปลงดังกล่าว (ตัวอย่างเช่นเมื่อการทำธุรกรรมดังกล่าวมีปริมาณเกินขีดจำกัดของระบบ) ซึ่งในกรณีนี้จำนวนเงินดังกล่าวจะยังคงเป็นสกุลเงินดิจิตอลและจะถูกดำเนินการเข้าไปยังกระเป๋าสกุลเงินดิจิตอลของผู้ใช้งาน

4. ข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งาน

4.1 ข้อกำจัดเกี่ยวกับการใช้งาน: ที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้บริการที่ได้ใช้บริการผ่านผู้ให้บริการนั้น หรือ สมาชิกท่านอื่นๆ หรือบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องไม่สามารถกระทำการฝ่าฝืนข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งานที่จะกล่าวต่อไปนี้ได้ มีการกระทำที่มีการฝ่าฝืนหรือกระทำผิดต่อข้อกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับ หรือพระราชบัญญัติต่างๆ อาทิเช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการความคุมการบริการด้านการเงินหรือพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นต้น มีการกระทำที่แสดงได้ว่ามีการพยายามหรือเจตนาที่จะทำกลฉ้อฉล หลอกลวง โกงผู้ให้บริการหรือรวมทั้งผู้ใช้อื่นๆ ของผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมก็ดี มีการกระทำการละเมิดฝ่าฝืนลิขสิทธิ์, สิทธิบัตร, เครื่องหมายการค้าหรือทรัพย์สินทางปัญญาของทางผู้ให้บริการก็ดีหรือบุคคลที่สามก็ดีไม่ว่าจะเป็นการละเมิดทางตรงหรือทางอ้อมก็ดี มีการปลอมแปลงหรือนำส่งมอบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง มีการกระทำในสิ่งที่ทำให้โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลของผู้ให้บริการนั้นเกิดความเสื่อมเสียโดยที่อาจจะทำให้ระบบการทำงานเกิดสภาวะแทรกซ้อนหรือมีการรบกวนอย่างหนักโดยไม่สมเหตุผลหรือมีความพยายามที่จะเข้าถึงฐานระบบข้อมูลของผู้ให้บริการไม่ว่าจะเป็นทั้งทางตรงหรือทางอ้อมก็ดี

5. ข้อพิพาทระหว่างผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ

5.1 ค่าสินไหมทดแทนกล่าวคือ ผู้ใช้บริการตกลงที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่ผู้ใช้บริการฝ่าฝืนข้อตกลงการใช้บริการฉบับนี้อย่างไม่จำกัดจำนวน ไม่ว่าการกระทำใดๆ ที่มีเจตนาหรือความประมาทเลินเล่อของผู้ใช้บริการเองนั้นซึ่งได้กระทำละเมิดโดยตรงหรือทางอ้อมต่อผู้ให้บริการ, พนักงานของบริษัท, กรรมการ, ตัวแทนและผู้ร่วมลงทุนก็ดี และยังรวมถึงค่าทนายความที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในส่วนของการให้คำปรึกษาและการนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาล

5.2 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการมีข้อขัดแย้งโต้เถียงกับผู้ใช้อื่นๆ ผู้ใช้บริการยินยอมว่าจะไม่นำผู้ให้บริการ รวมถึง เจ้าหน้าที่, พนักงานของบริษัท, กรรมการ, ตัวแทน, ผู้เกี่ยวข้อง และ ผู้ร่วมลงทุนเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นในฐานะตัวการผู้สนับสนุน พยาน หรือผู้มีส่วนได้เสียในการเรียกร้องค่าเสียหายส่วนตัวหรือฟ้องร้องดำเนินคดีใดๆทั้งสิ้น โดยที่ผู้ใช้บริการยินยอมให้ผู้ให้บริการปราศจากความรับผิดหรือเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น

5.3 ข้อพิพาทระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการนั้นกล่าวคือ ถ้าผู้ใช้บริการสามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ให้บริการได้กระทำ ความผิดพลาดในการให้บริการ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อผู้ให้บริการได้โดยตรง ด้วยวิธีการส่งจดหมายมาที่บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH Co., Ltd.) หรือทำการส่งเอกสารชี้แจงผ่านทางอีเมล์ที่ support@coins.co.th. ในขณะเดียวกันผู้ใช้บริการต้องให้ข้อมูลเพียงพอที่ทำให้ผู้ให้บริการสามารถยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ บัญชีของผู้ใช้บริการ และ ธุรกรรมของผู้ใช้บริการ ที่ผู้ใช้บริการเชื่อว่าได้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ผู้ใช้บริการจะต้องติดต่อเราหลังจากที่ธุรกรรมนั้นได้เกิดขึ้น ภายในระยะ 30 (สามสิบ) วันตามปฏิทิน และผู้ให้บริการ จะทำการตรวจสอบแก้ไขข้อผิดพลาดหรืออธิบายชี้แจงสาเหตุถึงธุรกรรมนั้นๆ ถูกต้องอยู่แล้ว ภายในระยะเวลา 30 (สามสิบ) วัน

6. การฝากเงินของผู้ใช้บริการ

6.1 ผู้ให้บริการอาจจะมีการอ้างอิงถึงบุคคลที่สาม หรือ “Tellers” เพื่อประโยชน์ในการฝากเงินเข้าบัญชีของผู้ให้บริการ ทางผู้ให้บริการมีความพยายามในการตรวจสอบบุคคลที่สามเหล่านั้น อย่างไรก็ตามแต่ผู้ให้บริการไม่สามารถประเมินความเหมาะสม ความถูกต้องที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมาย หรือความสามารถของบุคคลที่สามดังกล่าวได้ และผู้ใช้บริการยินยอมที่จะละเว้นความผิดแก่ผู้ให้บริการ บริษัท และ/หรือ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที และพนักงานต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อหรือที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามดังกล่าว บริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อพิพาท การต่อรองในข้อพิพาทระหว่างผู้ใช้บริการและบุคคลที่สาม ความรับผิดชอบในการตัดสินใจที่มีความเกี่ยวข้องกับบริการอันถูกเสนอผ่านซอฟแวร์หรือบริการที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นของผู้ใช้บริการแต่เพียงผู้เดียว ผู้ให้บริการไม่สามารถประเมินความเหมาะสม ความถูกต้องที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมาย หรือความสามารถของบุคคลที่สามได้ และผู้ใช้บริการยินยอมที่จะละเว้นความผิดแก่ผู้ให้บริการ บริษัท และ/หรือ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที และพนักงานต่อความเสียหาย ผลของการกระทำ การอ้างความผิดใดใดที่เกิดจากการใช้ซอฟท์แวร์หรือบริการ หรือวิธีการอื่นใดที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลที่สามที่เกิดจากผู้ใช้บริการโดยซอฟท์แวร์หรือบริการนั้น

6.2 การอ้างอิงใดๆ ก็ตามแต่ลงบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชั่นในการรับบริการต่อผู้ใช้บริการที่ได้รับการยืนยันหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือคล้ายคลึงกันหมายความถึงการที่ผู้ใช้บริการนั้นผ่านการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องเท่านั้นและไม่ได้แสดงถึงสิ่งอื่นใด คำอธิบายต่างๆ นั้นไม่ใช่การโฆษณา รับรอง หรือ รับประกันโดยผู้ให้บริการต่อผู้ใช้บริการแต่อย่างใด โดยที่รวมไปถึงตัวตนของผู้ใช้บริการและความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย หรือความเหมาะสมของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้คำอธิบายต่างๆ นั้นมีไว้เพื่อเป็นข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในการประกอบการตัดสินใจในเรื่องของตัวตนหรือความน่าเชื่อถือของผู้ที่ผู้ใช้บริการในการติดต่อหรือมีการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชั่นในการรับบริการ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้ผู้ใช้บริการทำการตรวจทานและใช้ความระมัดระวังในการตัดสินใจที่จะไว้วางใจหรือยอมรับการเรียกร้องการชำระเงินจากลูกค้า รวมไปถึงการมีทำธุรกรรมอื่นใดต่อลูกค้าเช่นกัน

7. ข้อกำหนดทั่วไป

7.1 ข้อจำกัดความรับผิดชอบ กล่าวคือไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามผู้ให้บริการ พนักงาน กรรมการบริษัท ตัวแทน ผู้ร่วมธุรกิจ และตัวแทนการให้บริการของผู้ให้บริการจะปราศจากความรับผิดชอบทั้งหมดที่เกี่ยวกับการขาดทุนกำไร หรือว่ากรณีพิเศษใดๆ หรือความเสียหายที่ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจโดยตรงที่เป็นผลกระทบซึ่งมาจากเว็บไซต์หรือนอกเว็บไซต์ของผู้ให้บริการเองนั้น หรือข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับการรับผิดของผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการ พนักงาน กรรมการบริษัท ตัวแทน ผู้ร่วมธุรกิจ และตัวแทนการให้บริการของผู้ให้บริการที่มีให้ผู้ใช้บริการหรือบุคคลที่สามไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตามแต่จะถูกจำกัดความรับผิดชอบอยู่ที่จำนวนเงินของมูลค่าที่เสียหายโดยตรงเท่านั้น

7.2 การรับประกันกล่าวคือ การให้บริการของผู้ให้บริการนั้นไม่มีการรับประกันใดๆทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมโดยที่ผู้ให้บริการ พนักงาน กรรมการบริษัท ตัวแทน ผู้ร่วมธุรกิจ และตัวแทนการให้บริการของผู้ให้บริการ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องใดๆ ก็ตามแต่ขอสละสิทธิในการรับประกันที่ได้กล่าวบอกไปเป็นนัยยะสำหรับการซื้อขาย การใช้บริการที่เหมาะแก่การใช้ประโยชน์เฉพาะอย่างการและไม่มีการละเมิดใดๆทั้งสิ้น โดยที่ผู้ให้บริการไม่มีอำนาจการความคุมสินค้าหรือการบริการต่างๆที่ผู้ใช้บริการชำระด้วยบริการของ ผู้ใช้บริการ และผู้ให้บริการไม่สามารถรับรองได้ในกรณีที่ผู้ซื้อหรือผู้ขายที่ผู้ใช้บริการได้มีการยืนยันการทำธุรกรรมที่สำเร็จลุล่วงไปแล้วหรือมีอำนาจที่จะกระการใดๆ ดังนั้นผู้ให้บริการไม่สามารถที่จะรับประกันการต่อเนื่องหรือความปลอดภัยในการเชื่อมต่อในส่วนใดๆ ของการให้บริการของผู้ให้บริการ และระบบการดำเนินการของผู้ให้บริการอาจจะถูกเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัจจัยการควบคุมภายนอกซึ่งนอกเหนือไปจากการควบคุมของผู้ให้บริการเอง อย่างไรก็ตามแต่ผู้ให้บริการจะพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่จะรับรองว่าการตัดเงินหรือการฝากเงินที่เกี่ยวกับบัญชีธนาคาร บัตรเครดิตและรวมถึงการออกเช็คจะถูกทำในเวลาที่รวดเร็วสมเหตุผล อย่างไรก็ตามแต่ผู้ให้บริการจะไม่รับรองหรือรับประกันระยะเวลาที่จำเป็นที่จะต้องใช้เพราะว่าบริการของผู้ให้บริการนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่เราไม่สามารถควบคุมได้เช่นการสภาวะความล่าช้าของระบบธนาคารหรือไปรษณีย์

7.3. ข้อบังคับสำหรับการส่งสินค้าออกนอกประเทศกล่าวคือ การให้บริการต่างๆ ของผู้ให้บริการและผู้ให้บริการ สกุลเงินดิจิตอลอื่นที่ดำเนินการผ่านเว็บไซต์ของผู้ให้บริการนั้นอยู่ภายใต้การบังคับของข้อบังคับการควบคุมการส่งสินค้าออกต่างประเทศและข้อกำหนดเกี่ยวกับการควบคุมเศรษฐกิจ โดยการทำธุรกรรมรายการใด ๆ ผ่านทางเว็บไซต์ของ ผู้ให้บริการนั้น ผู้ใช้บริการจะต้องทำการรับรองและรับประกันว่าการซื้อสินค้าและบริการใดๆจากผู้ให้บริการ จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับที่กล่าวมาข้างต้นและผู้ใช้งานจะไม่สามารถซื้อขายหรือใช้บริการกับบริษัทได้หากผู้ใช้งานเป็นบุคคลที่เข้าค่ายบุคคลต้องห้ามดังต่อไปนี้

1. ผู้ใช้บริการมีสัญชาติหรือถิ่นที่อยู่ หรือ พยายามที่จะนำสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับบริการจากผู้ให้บริการถ่ายโอน ยักย้ายไปยังประเทศดังต่อไปนี้ คิวบา อิหร่าน เกาหลีเหนือ ซูดาน หรือ ซีเรีย หรือประเทศใดก็ตามที่อยู่ในรายชื่อประเทศถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา หรือ ประเทศที่ถูกต้องห้ามโดยสหประชาชาติ (UN) หรือ ประเทศที่อยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกต้องห้ามของกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร (UK) หรือ ราชชื่อตามสำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (Office of. Foreign Assets Control: OFAC) ภายใต้กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 2. ผู้ใช้บริการเป็นบุคคล หรือพยายามที่จะนำสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับบริการจากผู้ให้บริการถ่ายโอน ยักย้ายไปยัง บุคคลที่ถูกระบุอยู่ในรายชื่อบุคคลต้องห้ามที่ออกโดยกระทรวงการคลังและกระทรวงพานิชของสหรัฐอเมริกา หรือ เป็นบุคคลต้องห้ามตามรายชื่อที่ออกโดยกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร (UK)

7.4 ระเบียบข้อบังคับและบทลงโทษ: เนื่องจากผู้ให้บริการถูกห้ามมิให้บริการและริเริ่มความสัมพันธ์กับบุคคลหรือนิติบุคคลบางประเภท ตามนโยบายข้อกำหนดของผู้ให้บริการหรือตามข้อบังคับ บทบัญญัติของรัฐบาล ผู้ให้บริการอาจจำเป็นต้องกระทำการดังต่อไปนี้

1. ระงับหรือยกเลิกการให้บริการบัญชีของท่านหรือระงับการทำธุรกรรม ถอนสกุลเงินดิจิตอลของผู้ใช้บริการเพื่อยักย้าย ถ่ายโอนสู่แหล่งที่มาของเงินนั้น หรือ ย้ายไปสู่บัญชีที่ทางการกำหนด อาจร้องขอให้ผู้ใช้บริการยักย้าย ถ่ายโอนสกุลเงินดิจิตอลภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยระยะเวลาดังกล่าวให้ถือตามดุลพินิจของผู้ให้บริการ 2. ผู้ให้บริการไม่มีความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม สำหรับความสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากการปฏิบัติที่ตามข้อบังคับของกฎหมาย คำสั่งจากภาครัฐ คำสั่งศาล หรือ คำสั่งอื่นๆบังคับโดยกฎหมายและภาครัฐ

7.5 ไวรัสคอมพิวเตอร์ ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบในส่วนที่มีการเกี่ยวข้องกับทางกฎหมายอันเกิดจากความเสียหายหรือความล่าช้าในการทำงาน ที่เกิดจากไวรัสคอมพิวเตอร์ สปายแวร์ สแกแวร์ โทรจัน เวิร์ม และโปรแกรมมัลแวร์ต่างๆที่สามารถสร้างความเสียหายหรือดึงข้อมูลจากคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของผู้ใช้บริการ รวมทั้งการล้วงข้อมูลด้วยวิธีอาทิเช่น ฟิชชิ่ง การปลอมแปลงหน้าเว็บไซต์ และการโจมตีต่างๆ ทางคอมพิวเตอร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการเองนั้น ผู้ให้บริการแนะนำให้ผู้ใช้บริการใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสและซอร์ฟแวร์ป้องกันที่มีมาตรฐานและสามารถเชื่อถือได้ ช่องทางการสื่อสารอาทิเช่น SMS อีเมล์ และหน้าเว็บไซต์ สามารถถูกปลอมแปลง ดังนั้นผู้ใช้บริการควรตรวจสอบเอกสารและเว็บเหล่านี้ ว่ามาจากทางผู้ให้บริการจริงหรือไม่ ท้ายที่สุดนี้เว็บไซต์ Coins.co.th เป็นช่องทางเดียวที่คุณสามารถล็อกอินเข้าสู่ระบบ เพื่อตรวจสอบและจัดการธุรกรรมต่างๆ ได้

8. ไม่รับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ

8.1 ผู้ใช้บริการตกลงว่าจะไม่นำสกุลเงินดิจิตอลที่ซื้อจากผู้ให้บริการไปแลกเปลี่ยนกับสกุลเงินประเทศอื่นๆนอกเหนือจากเงินบาท ลูกค้าจะต้องรับรองว่าสกุลเงินดิจิตอลที่ขายให้ทางผู้ให้บริการไม่เคยเกี่ยวข้องกับการแลกเปลี่ยนกับสกุลงินอื่นๆนอกจากเงินบาทมาก่อน ในกรณีที่สกุลเงินดิจิตอลของผู้ใช้บริการถูกนำไปใช้หรือเคยถูกนำไปใช้แลกปลี่ยนกับสกุลเงินต่างประเทศ การกระทำของผู้ใช้บริการอาจจะถูกพิจารนาว่าได้นำไปใช้จ่ายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ และอาจจะมีความผิดซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายการควบคุมการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน พ.ศ. 2485

นโยบายเกี่ยวกับลูกค้าจากรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

เนื่องจากปัจจุบันได้มีการออกกฎหมาย “Bit License” จากรัฐนิวยอร์กที่ผ่านมา ทางผู้ให้บริการจึงมีความเสียใจที่ต้องแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบว่าทางผู้ให้บริการไม่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าที่มาจากพำนักที่นิวยอร์ก หากผู้ใช้บริการได้ทำการลงทะเบียน หรือได้มีการใช้สินค้าและการบริการจากทางผู้ให้บริการ หมายความว่าผู้ใช้บริการแน่ใจแล้วว่าผู้ใช้บริการมิได้มาจากรัฐนิวยอร์กหรือเป็นนิติบุคคลที่ลงทะเบียนที่นิวยอร์กและผู้ใช้บริการจะไม่ใช้บริการของทางผู้ให้บริการจากรัฐนิวยอร์ก

ภาคผนวก 1: ธุรกิจที่ห้ามผู้ใช้บริการนำไปประกอบการใช้สินค้าและบริการและข้อห้ามในการใช้สินค้าและบริการ ผู้ใช้บริการยืนยันว่าผู้ใช้บริการจะไม่ใช้บริการจากทางบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ กิจกรรม การประกอบการ หรือสินค้าดังต่อไปนี้:


1. ธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนหรือไม่ได้รับใบอนุญาตในลักษณะของบริการการโอนเงิน บริการทางการเงิน บริการชำระเงิน อีมันนี่ หรือธุรกิจบริการทางการเงินอื่นๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีการจดทะเบียนหรือมีใบอนุญาต รวมถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลดิจิตอล การขายธนาณัติ หรือเช็คสำหรับผู้เดินทาง

2. สินค้าลอกเลียนแบบหรือสินค้าและบริการใดๆที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า หรือความลับทางการค้าของบุคคลที่สาม

3. สินค้าที่มาจากการลักขโมย

4. ยาเสพย์ติด สารที่ต้องควบคุม บริการทางเภสัชกรรมหรือการออกใบสั่งยา อุปกรณ์เกี่ยวกับยา หรือสิ่งใดๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบยาหรือยาที่ผิดกฎหมาย

5. การพนันทุกชนิด ยกเว้นได้รับการยกเว้นหรืออนุญาตจากผู้ให้บริการ

6. การคาดการณ์ผลการแข่งขันกีฬาหรือการพนันใดๆ

7. การค้าประเวณีหรือการค้ามนุษย์

8. การกระทำรุนแรงต่อตนเองหรือผู้อื่นหรือกิจกรรมหรือสิ่งของที่สนับสนุน ส่งเสริม เกื้อหนุน หรือ เป็นคำสั่ง ก่อให้เกิดการกระทำหรือความรุนแรงต่อตนเองหรือผู้อื่น

9. การให้เงินทุนแก่รายการใดๆ ที่อยู่ในรายการของธุรกิจที่ห้ามใช้สินค้าและบริการนี้

10. การขู่กรรโชก ขู่เข็ญ หรือการกระทำใดๆ เพื่อที่จะได้มาซึ่งเงินหรือรายได้ที่ไม่ได้มาจากการทำงาน หรือไม่สมควรจะได้รับ

11. การซื้อขายอาวุธโดยไม่มีการได้รับอนุญาตและใบอนุญาต

12. มีส่วนเกี่ยวข้องในการตลาดหรือการโฆษณาที่หลอกลวง

13. ธุรกิจที่ละเมิดกฎหมาย กฤษฎีกา รัฐบัญญัติ พระราชบัญญัติ หรือระเบียบข้อบังคับใดๆ

การใดก็ตามแต่เมื่อผู้ใช้บริการได้เปิดบัญชีเพื่อขอรับบริการจากผู้ให้บริการแล้วนั้น ผู้ใช้บริการยืนยันที่จะไม่นำบัญชีของผู้ให้บริการไปทำธุรกรรมต่างๆ ที่ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อตกลง (“ข้อห้ามในการใช้สินค้าและบริการ”) ดังต่อไปนี้:



1. บังคับ ขู่เข็ญ เจตนาหรือให้ความร่วมมือแก่ผู้ใดก็ตามในการกระทำผิดละเมิดกฎหมาย กฤษฎีกา รัฐบัญญัติ พระราชบัญญัติหรือระเบียบข้อบังคับใดๆ ของสถาบันหรือองค์กรที่ผู้ใช้บริการเป็นสมาชิกหรืออยู่ภายใต้ (เช่น กฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับของสถาบันทางการเงิน ข้อบังคับเกี่ยวกับสารเสพย์ติดหรือสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคหรือพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์

2. มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมที่นำไปสู่การกระทำอันผิดกฎหมาย

3. มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ ยกเว้นได้รับการยกเว้นหรืออนุญาตจากผู้ให้บริการ

4. หลอกลวง หรือ พยายามหลอกลวง ผู้ให้บริการหรือผู้ใช้งานของผู้ให้บริการอื่นๆ

5. ละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญาของผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่น

6. ให้ข้อมูลเท็จ ไม่ตรงตามความเป็นจริง หรือข้อมูลที่นำไปสู่ความเข้าใจผิดต่อผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่น

7. การกระทำใดๆ โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ที่ก่อให้เกิดความผิดพลาด เสียหาย ขัดขวาง หรือยึดโครงสร้างพื้นฐาน ระบบ ข้อมูล หรือฐานข้อมูลของทางผู้ให้บริการ

8. แทรกแซงหรือแอบอ้างการเข้าบัญชี ผู้ให้บริการ ของผู้อื่น หรือ เข้าบัญชีผู้ใช้บริการของผู้อื่นเพื่อใช้บริการของทางผู้ให้บริการ

9. ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง สบประมาท คุกคาม บังคับ ข่มขู่ หรือ ละเมิดสิทธิทางกฎหมาย (เช่น สิทธิส่วนบุคคล การเผยแพร่ข้อมูล หรือทรัพย์สินทางปัญญา) ของผู้อื่น

10. เผยแพร่หรือแจกจ่าย ข้อมูลหรือสิ่งที่ผิดกฎหมายใดๆ

11. เผยแพร่หรืออัพโหลด ข้อมูลหรือสิ่งใดที่มีไวรัสคอมพิวเตอร์ สปายแวร์ สแกแวร์ โทรจัน เวิร์ม หรือโปรแกรมมัลแวร์ต่างๆ ที่ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีอันตรายซึ่งอาจจะทำให้เกิดการลบล้างข้อมูลส่งผลกระทบต่อผู้ให้บริการ

12. เก็บเกี่ยวหรือรวมรวบข้อมูลจากผู้ให้บริการเกี่ยวกับบุคคลอื่นหรือรวมถึงข้อมูลทางระบบอิเล็คทรอนิกส์อีเมล์ (email) อาทิเช่น รวบรวมข้อมูลจากทางอีเมล์ของผู้ให้บริการหรือบุคคลอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางผู้ให้บริการ

13. โอนสิทธิที่ได้รับจากข้อตกลงนี้ให้แก่ผู้อื่น

14. ใช้ข้อมูลบัญชีผู้ให้บริการของผู้อื่นเพื่อเข้าหรือใช้เว็บไซต์ผู้ให้บริการ ยกเว้นในกรณีของผู้ประกอบการ และ/หรือการใช้งานที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากผู้ใช้บริการเพื่อเข้าถึงบัญชีและข้อมูลของผู้ใช้ผู้นั้น

15. พยายามเข้าเว็บไซต์ผู้ให้บริการ, บัญชีผู้ให้บริการ ของผู้อื่น, ระบบหรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับ ผู้ให้บริการ, การขุดรหัสผ่านของผู้อื่นหรือใช้วิธีการอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต

16. กระทำการเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่ละเมิดลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า สิทธิในการเผยแพร่ สิทธิส่วนบุคคล หรือสิทธิอื่นๆตามกฎหมาย

17. ไม่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริการับบริการกับผู้ให้บริการเพื่อการย้ายเงินหรือกระทำการใดๆ เกี่ยวกับทางการเงินที่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากทางกฎหมายที่ปกครองเกี่ยวกับการบริการทางการเงิน


เงื่อนไขการใช้บริการ TradeDesk

วันที่เริ่มต้นบังคับใช้คือวันที่ 20 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2565

เมื่อท่านได้เข้าถึงและเริ่มใช้งานบริการ TradeDesk ที่เปิดให้บริการโดยบริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด ท่านได้ตกลงและยินยอมดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงที่จะกล่าวต่อไปในส่วนนี้ (“ข้อตกลงในส่วนนี้”) แล้ว ข้อตกลงในส่วนนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการใช้บริการของบริษัทฯ หากแต่ข้อตกลงในส่วนนี้และส่วนอื่นๆของข้อตกลงฉบับนี้จะปรับใช้กับท่านต่อเมื่อท่านได้เข้าใช้บริการในส่วนของบริการ TradeDesk (“การใช้บริการในส่วนนี้”) ที่บริษัทฯให้บริการ ท่านควรอ่านข้อตกลงการใช้บริการในส่วนนี้และส่วนอื่นๆก่อนการเข้าถึงและเริ่มใช้งานบริการ TradeDesk จากทางเรา ในกรณีที่ข้อตกลงในส่วนนี้มีเนื้อหาขัดหรือแย้งกับข้อตกลงในส่วนอื่นๆของข้อตกลงการใช้บริการ ให้ข้อตกลงในส่วนนี้มีผลบังคับใช้เหนือข้อตกลงในส่วนอื่นๆของข้อตกลงการใช้บริการ ข้อตกลงในส่วนนี้เป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับการเข้าถึงบริการ TradeDesk และท่านยอมรับว่าท่านได้อ่าน เข้าใจ และยอมรับข้อตกลงในส่วนนี้ทั้งหมดแล้วก่อนเริ่มใช้บริการ TradeDesk กับเรา

การใช้บริการในส่วนนี้อาจถูกระงับหรือถูกจำกัดเนื่องด้วยสถานที่ที่ท่านพํานักอยู่ ท่านเข้าใจดีว่าเป็นความรับผิดชอบของท่านที่จะต้องปฏิบัติตามกฎและข้อบังคับที่บังคับใช้ในถิ่นพํานักอยู่ ของท่านและ/หรือสถานที่ที่ท่านเข้าถึงบริการหากนี้ หากถิ่นที่ท่านพํานักอยู่มีกฎเกณฑ์เพิ่มที่ท่านต้องปฎิบัติตามเป็นพิเศษ โดยตราบใดที่ท่านตกลงและปฏิบัติตามข้อกำหนดในส่วนนี้และข้อตกลงการใช้บริการ เราให้สิทธิที่เป็นการเฉพาะ ไม่ผูกขาด ไม่สามารถโอนสิทธิ์ อนุญาตให้ใช้สิทธิ์ช่วง และสิทธิจำกัดในการเข้าสู่แพลตฟอร์มของบริษัทฯและการเข้าใช้บริการในส่วนนี้

บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง เพิ่มหรือลบส่วนต่าง ๆ ของข้อกำหนดในส่วนนี้ได้ตลอดเวลาและการแก้ไขดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทฯแต่เพียงผู้เดียว โดยเราจะแจ้งเตือนถึงการแก้ไขดังกล่าวไปยังอีเมลของท่าน เมื่อท่านได้รับข้อความท่านมีหน้าที่ในการอ่านข้อตกลงที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ การที่ท่านใช้งานบริการในส่วนนี้ของบริษัทฯต่อไปหลังการจากแจ้งเตือนถึงการแก้ไขเปลื่ยนแปลงย่อมเป็นการแสดงว่า ท่านได้ยิมยอมและยอมรับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงของข้อตกลงในส่วนนี้ และท่านจะดำเนินการต่างๆให้เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว

บททั่วไปของบริการ TradeDesk

บริการ TradeDeskของบริษัทฯนี้เป็นส่วนหนึ่งของบริการที่บริษัทฯเปิดบริการให้ท่านสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแบบ over-the-counter ได้ (“ธุรกรรม Tradedesk”) โดยไม่จำต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขปกติของราคาซื้อขายหรือปริมาณจำกัดที่บริษัทฯกำหนดที่ประกาศในแพลตฟอร์มของเรา

โดยในส่วนของบริการ TradeDeskนั้นท่านสามารถเข้าใช้งานได้โดยการขอใบเสนอราคาจากเรา (“TradeDeskRFQ”) โดยท่านสามารถส่งคำขอเสนอราคากับเราผ่านทางอีเมล (tradedesk@coins.co.th) หรือช่องทางอื่นๆที่บริษัทกำหนด (“ช่องทาง tradedesk”) ซึ่งในส่วนของรายละเอียดในการใช้บริการ TradeDeskกับทางเรานั้นท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ FAQ ของเรา

บริการ TradeDesk

บริษัทฯขอสงวนสิทธิในการให้บริการเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลบางประเภทภายใต้การให้บริการผ่านทาง TradeDeskอย่างไรก็ตามสินทรัพย์ดิจิทัลที่ทางบริษัทฯให้บริการผ่านทางบริการ TradeDeskนั้นจะถูกประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไปผ่านทาง FAQ ของเราและอาจมีการเปลื่ยนแปลงในขณะใดก็ได้ตามดุลยพินิจของเรา ทางเราจะให้บริการ TradeDeskในรูปแบบ pre-trade basis ซึ่งท่านจะต้องมีจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลหรือเงินให้เพียงพอก่อนการขอใบเสนอราคาจากทางเรา (“ใบเสนอราคา”) ทั้งนี้บริการ TradeDeskอาจมีข้อจำกัดในด้านจำนวนสินทรัพย์ขั้นต่ำที่ในการซื้อของเพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการ TradeDeskได้

การสื่อสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการ TradeDesk(เช่น การส่งและตอบกลับใบเสนอราคา, สถานะของใบเสนอราคา, การยืนยันธุรกรรม) อาจจัดขึ้นผ่านวิธีการสื่อสารใด ๆก็ได้ (เช่น การตอบกลับผ่านแชทข้อความอิเล็กทรอนิกส์, การพูดปากเปล่า, อีเมล)

1. ใบเสนอราคา

ท่านสามารถส่งคำขอใบเสนอราคา (“การขอใบเสนอราคา”) ผ่านช่องทาง TradeDeskโดยหลังจากที่ทางบริษัทได้รับคำขอ ทางบริษัทฯจะจัดส่งใบเสนอราคาให้แก่ท่าน โดยใบเสนอราคาดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นซึ่งระยะเวลาดังกล่าวจะถูกระบุไว้ในใบเสนอราคา ท่านอาจตอบรับหรือปฏิเสธใบเสนอราคาดังกล่าวได้ (หากท่านไม่ได้ดำเนินการตอบกลับมาภายในระยะเวลาที่กำหนดทางบริษัทฯจะถือว่าท่านได้ทำการปฏิเสธใบเสนอราคาดังกล่าวแล้ว) ท่านไม่สามารถต่อรองใดๆ เกี่ยวกับใบเสนอราคาเป็นการเฉพาะได้

เมื่อท่านได้ยอมรับใบเสนอราคาดังกล่าวแล้ว (“การยอมรับใบเสนอราคา”) คำขอของท่านจะอยู่ระหว่างการดำเนินการจนกว่าท่านจะได้รับการยืนยันการทำธุรกรรมจากเรา ทั้งนี้การตอบตกลงต่อใบเสนอราคาของท่านไม่ได้ถือว่าเป็นนิติกรรมที่มีผลผูกพันระหว่างบริษัทฯและท่านโดยทันที ทางบริษัทฯยังคงสงวนสิทธิในการปฏิเสธการตอบรับในเสนอราคาจากท่านได้จนกว่าจะมีการยืนยันธุรกรรมของท่านจากทางบริษัทฯ โดยทางเราจะแจ้งเตือนถึงสถานะของธุรกรรมของท่านผ่านทางช่องทาง TradeDesk

ท่านตกลงและรับทราบว่าบริษัทฯ สามารถใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการพิจารณาว่าจะประมวลผลหรือปฏิเสธที่จะดำเนินการตาม คำขอใบเสนอราคา ใบเสนอราคา การยอมรับใบเสนอราคา หรือการตอบกลับอื่นใดต่อใบเสนอราคาได้

2. การดำเนินการ

เมื่อทางบริษัทฯได้มีการยอมรับใบเสนอราคาและธุรกรรมดังกล่าวถูกยืนยันจากทางบริษัทฯแล้ว ธุรกรรมดังกล่าวจึงถือจะเป็นการผูกมัด ธุรกรรมที่มีการดำเนินการดังกล่าว (“ธุรกรรมที่ดำเนินการ”) จะไม่สามารถแก้ไขเปลื่ยนแปลงได้ เว้นแต่ทุกฝ่ายตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการเฉพาะ และ/หรือ ระบุไว้เป็นอย่างอื่นอย่างชัดเจนในข้อกำหนด TradeDeskนี้ เมื่อดำเนินการแล้ว เงื่อนไขของธุรกรรมที่ดำเนินการนี้ จะถือเป็นสัญญาที่มีผลผูกพันระหว่างคุณและบริษัท

อย่างไรก็ตาม หากบริษัทฯพิจารณาตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวว่า (i) ใบเสนอราคาที่บริษัทฯ มอบให้ท่าน และ/หรือ (ii) ใบเสนอราคาที่ได้รับการยืนยันมีข้อผิดพลาดที่เห็นได้ชัดเกี่ยวกับข้อกำหนด ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ราคา หรือจำนวนสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำหนดไว้ในใบเสนอราคานั้น หรือ ใบเสนอราคาที่ยอมรับ และ/หรือใบเสนอราคาที่ยืนยันแล้ว บริษัทฯมีสิทธิ์ในการยกเลิกธุรกรรมโดยส่งคำบอกกล่าวการยกเลิกให้กับคุณ ณ เวลาใดก็ตามก่อนการชำระเงินในขั้นตอนสุดท้ายเสร็จสิ้น (“การยกเลิกธุรกรรม”) ในกรณีที่ไม่มีข้อผิดพลาดที่ชัดเจน เงื่อนไขของใบเสนอราคาที่คุณยอมรับ (ใบเสนอราคาที่ยอมรับ) และการยืนยันโดยบริษัท (ใบเสนอราคาที่ยืนยันแล้ว) จะถือเป็นที่สิ้นสุด

3. การชำระเงิน

บริษัทฯจะดำเนินการชำระเงินกับธุรกรรมที่ถูกดำเนินการที่ท่านได้ทำเข้ามา โดยการชำระเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลหรือเงินไปยังบัญชีของท่าน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนที่บริษัทฯต้องดำเนินการชำระให้แก่ท่าน บริษัทฯสงวนสิทธิในการชะลอการชำระเงินให้แก่ท่าน ทั้งนี้ท่านจะได้รับแจ้งเวลาการชำระเงินโดยประมาณ ซึ่งไม่มีผลผูกพันผ่านช่องทาง TradeDesk ก่อนที่ท่านจะยอมรับใบเสนอราคา

ท่านรับทราบดีว่าในการใช้บริการ TradeDeskกับทางเรานั้นท่านจะต้องไม่ถอน พยายามถอน โอน หรือมอบภาระผูกพันแก่บุคคลที่สามในสินทรัพย์ดิจิทัลหรือเงินที่ถืออยู่ในบัญชีของคุณ จนกว่าท่านจะได้ดำเนินการชำระหนี้ให้แก่เราตามใบเสนอราคาที่ท่านได้ตกลงไว้กับเรา บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบต่อความล้มเหลวใด ๆ ในการไม่ชำระตามเวลาที่กำหนดไว้ในข้างต้นอันเป็นผลมาจากความล้มเหลวทางเทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ตล่มและใช้งานไม่ได้

ท่านรับทราบและยอมรับว่าในกรณีของการยกเลิกธุรกรรม การชำระเงินจะไม่เกิดขึ้น และทั้งบริษัทฯหรือบริษัทในเครือของเราไม่จำต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากความล้มเหลวในการชำระธุรกรรมที่ดำเนินการ

บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผลว่ามีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งส่งผลให้ บริษัทฯไม่สามารถปฏิบัติตามธุรกรรมที่ดำเนินการได้ เหตุการณ์เหล่านี้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ความล้มเหลวของระบบที่ระบุ ข้อผิดพลาดในการป้อนข้อมูล การหยุดชะงัก ความล่าช้า เหตุสุดวิสัย หรือสถานการณ์อื่นๆ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบทันทีเกี่ยวกับเหตุการณ์พิเศษที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามธุรกรรมที่ดำเนินการได้ ซึ่งหลังจากส่งการแจ้งเตือนดังกล่าวโดยบริษัทฯแล้ว ท่านตกลงว่าบริษัทฯ ไม่จำต้องปฏิบัติตามธุรกรรมที่ดำเนินการแล้ว และธุรกรรมที่ดำเนินการใดๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์พิเศษนั้นจะเป็นโมฆะ

4. ค่าธรรมเนียม

บริการ TradeDeskโดยเฉพาะราคาที่กำหนดในใบเสนอราคานั้น เป็นราคาที่บริษัทฯเสนอให้ผู้ใช้บริการผ่านช่องทางการบริการ TradeDesk ของบริษัทฯเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้เนื่องจากราคาสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความผันผวน ทางบริษัทฯ จึงไม่สามารถกำหนดถึงราคาในข้อกำหนด TradeDesk ช่องทาง TradeDesk หรือบนแพลตฟอร์มของบริษัทฯได้

5. คำยืนยันและคำรับประกัน

ท่านรับทราบและตกลงว่าเมื่อทำธุรกรรม ท่านจะทำธุรกรรมสำหรับบัญชีของตัวท่านเอง และในฐานะและบทบาทที่ได้แจ้งไว้กับทางบริษัทฯ

Coins TH ใช้มาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าบริการ TradeDesk สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาทำงานที่กำหนดโดยไม่หยุดชะงัก อย่างไรก็ตาม Coins TH ไม่สามารถรับประกันการให้บริการ TradeDesk ได้อย่างต่อเนื่องหรือปราศจากข้อผิดพลาด หรือ Coins TH จะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องทั้งหมดหรือป้องกันการหยุดชะงักจากเหตุสุดวิสัยต่างๆได้ ในกรณีของการหยุดชะงักดังกล่าว ท่านอาจไม่สามารถเข้าถึง บริการ TradeDesk ได้บางส่วนหรือทั้งหมด

บริษัทฯไม่รับรองและไม่รับประกันว่า บริษัทฯจะดำรงไว้ซึ่งสินทรัพย์ดิจิทัลใด ๆ เพื่อจะพร้อมสำหรับการซื้อขายผ่านบริการ TradeDesk ไปตลอดการ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์โดยมีหรือไม่มีสาเหตุหรือแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว ในการจำกัด ระงับ หรือยุติบริการ TradeDesk ทั้งหมดหรือบางส่วน หรือการเข้าถึงบริการ TradeDesk และ/หรือช่องทาง TradeDesk ของท่าน

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัยบริษัทฯ จะไม่มีภาระผูกพันในการส่งคำขอใบเสนอราคาที่ได้รับและ/หรือใบเสนอราคาที่ยอมรับ ท่านเข้าใจว่า ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาข้อตกลงอื่นหรือบริการอื่นๆที่อาจจำเป็นหรือเป็นที่ต้องการ หากบริการ TradeDeskใด ๆ หรือทั้งหมดไม่สามารถใช้งานได้หรือหยุดชะงัก

บริษัทฯไม่รับรองหรือรับประกันว่าบริการ TradeDesk ดังกล่าวมีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในทุกสถานที่ หรือธุรกรรมและบริการที่อธิบายไว้ในที่นี้มีให้หรือเหมาะสมสำหรับการเข้าสู่หรือใช้ในทุกประเทศ ท่านควรแจ้งเตือนตัวเองเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมายและผลทางภาษีของการใช้บริการ TradeDesk ภายในประเทศของท่าน บริษัทฯจะไม่รับผิดชอบต่อผลทางภาษีที่เกิดขึ้นกับท่านเนื่องจากการใช้บริการ TradeDesk ที่ให้บริการโดย บริษัทฯ

6. การจำกัดความรับผิด

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อสงสัย คำยืนยันและคำรับประกัน การจำกัดความรับผิดและการชดใช้ค่าเสียหายและการสละสิทธิ์ของผู้ใช้บริการที่กำหนดไว้ในข้อตกลงผู้ใช้งานของบริษัทฯ จะครอบคลุมบริการ TradeDeskและข้อกำหนด TradeDeskเหล่านี้ด้วย


นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาระหว่างผู้ใช้บริการซึ่งเป็นผู้ใช้บริการไม่ว่าจะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้สำหรับการใช้งานของผู้ให้บริการซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ใช้บริการ” กับ บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH Co., Ltd.) ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “ผู้ให้บริการ” ในชื่อ coins.co.th ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า “เว็บไซต์”

ผู้ให้บริการได้สร้างนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า“นโยบาย” ขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับรู้ว่า ผู้ให้บริการได้มีการทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆ เมื่อผู้ใช้บริการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของทางผู้ให้บริการ รวมถึงสาเหตุต่างๆที่ทำให้ผู้ให้บริการมีความจำเป็นที่จะต้องรวบรวมข้อมูลเหล่านั้น โดยที่ข้อมูลนั้นจะถูกนำไปใช้เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทางบริษัทได้รับจะถูกนำไปใช้ตรงตามวัตถุประสงค์และเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผู้ให้บริการจึงได้กำหนดนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อแจ้งให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทราบถึงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนสิทธิต่างๆ ของท่านตามกฎหมาย

โดยการใช้งานผ่านเว็ปไซต์ของผู้ให้บริการ ถือว่าผู้รับบริการได้อ่านและเข้าใจเนื้อหาของนโยบายฉบับนี้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

โดยที่ทางผู้ให้บริการขอสงวนสิทธ์ในการปรับเปลี่ยนนโยบายตามวันเวลาที่เหมาะสม ในกรณีที่ผู้ให้บริการมีการแก้ไขนโยบายฉบับนี้นั้น ทางผู้ให้บริการจะทำการประกาศและแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบต่อไป

ผู้ให้บริการมีวิธีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการอย่างไร

ผู้ให้บริการอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่ผู้ให้บริการโดยตรง หรือให้ผ่านผู้ให้บริการเกิดจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ ติดต่อ เยี่ยมชม เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านช่องทางให้บริการ และ / หรือ ช่องทางการติดต่อต่าง ๆ ของผู้ให้บริการ เช่นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ให้บริการ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จุดบริการยืนยันตัวตน โทรศัพท์ โทรสาร ไปรษณีย์ แบบสอบถาม กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด การพบปะ หรือช่องทางอื่นใด

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการได้รับหรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น หน่วยงานของรัฐ ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่น ผู้ให้บริการทางการเงินและผู้ให้บริการอื่นๆ ของผู้ให้บริการ พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของพันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการกับผู้ให้บริการ บุคคลหรือนิติบุคคลที่มาทำธุรกรรมกับผู้ให้บริการ (ในฐานะที่ท่านเป็นบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมดังกล่าวตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น) สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ของบุคคลภายนอก แหล่งข้อมูลสาธารณะ (เช่น ราชกิจจานุเบกษา) ผู้มีอำนาจหรือมีสิทธิตามกฎหมาย บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ผู้ให้บริการมีนิติสัมพันธ์ด้วย เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ผู้ให้บริการได้จัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผยบ้าง

ในการสร้างบัญชีหรือใช้บริการกับทางผู้ให้บริการ เราอาจมีการ จัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลดังต่อไปนี้

• ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ ชื่อกลาง นามสกุล นามแฝง (หากมี) เพศ วันเดือนปีเกิด อายุ สถานภาพทางการสมรส สถานภาพครอบครัว จำนวนสมาชิกในครอบครัวและจำนวนบุตร สัญชาติ ประเทศที่พำนัก ลายมือชื่อ ข้อมูลบนเอกสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า สำเนาใบต่างด้าว สำเนาใบอนุญาตทำงาน สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ / รัฐวิสาหกิจ สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาสูติบัตร สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาใบมรณบัตร หรือเอกสารที่ใช้ในการระบุและยืนยันตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน) ข้อมูล KYC และ CDD อื่นๆ เป็นต้น

• ข้อมูลเพื่อการติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามเอกสารสำคัญ ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน และที่อยู่ในประเทศตามสัญชาติ สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีเมล ชื่อหรือบัญชีเข้าใช้งานสำหรับการติดต่อสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ (เช่น ไอดีไลน์ (LINE ID)) หลักฐานการมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย เป็นต้น

• ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน เช่น ระดับการศึกษาสูงสุด อาชีพและสาขาอาชีพ รายละเอียดงาน ประเภทธุรกิจ เป็นต้น

• ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม เช่น ภาพสมุดบัญชีเงินฝาก รายละเอียดของสมุดบัญชีเงิน ข้อมูลรายได้ แหล่งที่มาของรายได้ ข้อมูลบนหนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน / โบนัส หรือหลักฐานแสดงรายได้อื่นๆ เอกสารการเดินบัญชีของธนาคาร ราคาประเมินทรัพย์สิน ข้อมูลการลงทุน (เช่น ระดับความเสี่ยงการลงทุน ข้อมูลตามแบบประเมินความเสี่ยงในการลงทุน) ประวัติการทำธุรกรรม รายละเอียดธุรกรรมและวัตถุประสงค์ในการทำธุรกรรม ข้อมูลอื่นๆ ประกอบการใช้ผลิตภัณฑ์ / บริการ เป็นต้น

• ข้อมูลทางเทคนิค อุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น ข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชัน หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address หรือ Mac address) คุกกี้ (Cookies ID) เว็บบีคอน (Web beacon) พิกเซลแท็ก (Pixel Tag) หรือ Software Development Kit (SDK) รหัสประจำอุปกรณ์ (Device ID) รุ่นและประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง ข้อมูลการเข้าใช้งานแบบ single sign - on (SSO) ล็อก (Log) ข้อมูลการเข้าสู่ระบบ (Log - in) ระยะเวลาที่เข้าถึง การใช้งานและระยะเวลาการใช้งานแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู ค่าเขตเวลา (Time zone) และสถานที่ตั้ง (Location Data) ประเภทและเวอร์ชั่นของปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงแพลตฟอร์ม ข้อมูลทางเทคนิคอื่นๆ จากการใช้งานบนแพลตฟอร์มและระบบปฏิบัติการ

• ข้อมูลอื่นๆ เช่น บันทึกการสื่อสารหรือการโต้ตอบระหว่างท่านกับผู้ให้บริการ รายละเอียดเรื่องร้องเรียนหรือการออกความเห็น คำขอใช้สิทธิต่าง ๆ ข้อมูลบนคำสั่งศาล / ราชกิจจานุเบกษาที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมของลูกค้าของผู้ให้บริการหรือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ให้บริการและข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ในบางกรณีผู้ให้บริการอาจมีความจำเป็นในการจัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลอ่อนไหวเพื่อวัตถุประสงค์ให้บริการแก่ท่าน อย่างไรก็ตามก่อนการจัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผยทางผู้ให้บริการจะต้องแน้ใจก่อนว่าได้มีการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลอย่างชัดแจ้งไว้แล้วหรือเป็นกรณีที่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย ทั้งนี้ผู้ให้บริการจะพิจารณาเป็นรายกรณีถึงความจำเป็นในการจัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผย ข้อมูลอ่อนไหวของท่าน

วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านของผู้ให้บริการ

โดยจุดประสงค์หลักที่ผู้ให้บริการมีความประสงค์ที่จะต้องเก็บใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการนั้น เพื่อที่จะให้การบริการเป็นไปด้วยความปลอดภัย ไม่ติดขัด มีประสิทธิภาพ และเพื่อประโยชน์ตามความต้องการของผู้ใช้บริการเองนั้น ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยอาศัยฐานทางกฎหมาย เท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้ให้บริการ เช่น เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือตามที่ท่านร้องขอ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และ / หรือ เพื่อดำเนินการภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

• การดำเนินการก่อนเข้าทำสัญญากับผู้ให้บริการ เช่น การให้คำปรึกษา คำแนะนำ และ / หรือ ข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหรือเอกสาร การพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคล รวมถึงกระบวนการทำความรู้จักลูกค้า (know - your - customer (KYC)) และการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (customer due diligence (CDD)) การตรวจสอบกับรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนด (Sanction List) ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและ / หรือหน่วยงานทางการซึ่งเปิดเผยเป็นการทั่วไปตามที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบการถูกพิทักษ์ทรัพย์หรือความเป็นบุคคลล้มละลาย การจัดระดับความเสี่ยงลูกค้า และการกระทำการอื่นๆที่กำหนดภายใต้กฎหมาย

• การส่งมอบผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการต่าง ๆ ตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับผู้ให้บริการ เช่น การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ การให้บริการตามผู้ที่ผู้ใช้บริการร้องขอและการช่วยเหลือสนับสนุนการที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของผู้ใช้บริการ การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมและส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริการ การแก้ไขข้อพิพาท เก็บค่าธรรมเนียม และจัดการปัญหาต่างๆ การจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า การดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ

• การดำเนินการทางการตลาดที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย เช่น การพิจารณากลุ่มลูกค้าเพื่อการนำส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม หรือการส่งเสริมการขายตามความเหมาะสม การนำส่งข้อเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ สิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรม งานอีเว้นท์ หรือการประชุมที่ผู้ให้บริการจัดขึ้น รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรม การนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และ / หรือ สิทธิพิเศษที่ท่านร้องขอ หรือการแจ้งสิทธิประโยชน์ของผู้รับบริการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการประเภทเดียวกัน / ใกล้เคียงกับที่ท่านมีอยู่กับผู้ให้บริการ การติดต่อในกรณีที่ท่านยังสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการไม่สำเร็จ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ท่านในกรณีที่ท่านต้องการสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการประเภทเดียวกันกับผู้ให้บริการอีกครั้ง หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ / หรือบริการอื่นที่น่าจะอยู่ในความสนใจของผู้รับบริการ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย

• การวิเคราะห์ วิจัย และ / หรือ จัดทำข้อมูลทางสถิติที่ไม่ต้องอาศัยความยินยอมจากท่านตามกฎหมาย เพื่อใช้ในการพัฒนา ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการภายในผู้ให้บริการเอง เช่น การวิเคราะห์ วิจัย วิจัยการตลาด จัดทำข้อมูลทางสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของท่าน และ / หรือ การจัดทำรายงานสำหรับการใช้ภายในของผู้ให้บริการ

• การดำเนินงานอื่น ๆ ของผู้ให้บริการ เช่น การติดตามการปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ การยกเลิกการบริการ การจัดการข้อร้องเรียน แก้ไขปัญหา การดำเนินการตามคำขอลูกค้า การจัดการเรื่องร้องเรียน หรือการจัดการเหตุการณ์กระทำผิดต่อกฎหมาย หรือเหตุการณ์ต้องสงสัย การสำรวจและประเมินความพึงพอใจภายหลังใช้ผลิตภัณฑ์ และ / หรือ บริการ การดำเนินคดีหรือกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การทำฐานข้อมูลด้านความเสี่ยงทางธุรกิจ การดำเนินการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการระบบสื่อสาร และการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเปรียบเทียบข้อมูลเพื่อความเที่ยงตรงและความถูกต้องกับบุคคลที่สาม

• การปฏิบัติตามกฎหมาย และ / หรือ การปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามคำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลผู้ให้บริการ เจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำนาจตาม กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ผู้ให้บริการจะไม่นำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นๆ ตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากไม่ได้มีการขออนุญาตจากทางผู้ใช้บริการโดยชัดแจ้งเสียก่อน ทั้งนี้ในบางกรณีผู้ให้บริการอาจมีการขออนุญาตจากทางผู้ใช้บริการเพื่ออนุญาตให้ทางผู้ให้บริการสามารถแบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการกับบุคคลที่สาม โดยที่ผู้ใช้บริการอาจจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการให้มีการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการไปเปิดเผยกับบุคคลที่สาม หรือ เพียงแต่อนุญาตให้ผู้ให้บริการทำได้เพียงใช้ข้อมูลส่วนตัวตามวัตถุประสงค์ใดๆ ก็ตามแต่ที่ไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์หลักหรือได้รับการอนุญาตอย่างใดอย่างหนึ่งตามลำดับ หากผู้ใช้บริการเลือกที่จะจำกัดการใช้งานของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการเองนั้น ระบบการบริการบางอย่างภายใต้การให้บริการของผู้ให้บริการ อาจจะไม่สามารถดำเนินการให้ผู้ใช้บริการได้ทั้งหมด

การตลาด

ผู้ให้บริการจะไม่ขายหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการให้บุคคลที่สามเพื่อจุดประสงค์การตลาดของบุคคลที่สามนั้นๆโดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจากผู้ใช้บริการโดยชัดแจ้งเสียก่อน ทั้งนี้ในบางกรณีเราอาจมีการขอความยินยอมจากผู้ใช้บริการเพื่อจัดเก็บ ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการบางประการเพื่อการดำเนินการทางการตลาดที่เป็นไปเพื่อที่จะปรับปรุงและทำให้การบริการ, ข้อมูล, และโฆษณาเข้ากับผู้ใช้บริการมากขึ้น

การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการบางส่วนต่อผู้อื่น

ผู้ให้บริการอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ โดยบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะเก็บรวบรวม ใช้ และ / หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอมหรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือในบางกรณี ท่านอาจอยู่ภายใต้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเหล่านั้นอีกด้วย โดยผู้ให้บริการอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการให้กับบุคคลดังต่อไปนี้

• ผู้มีส่วนร่วมในการให้บริการต่างๆภายใต้สัญญาฉบับนี้ ซึ่งมีส่วนช่วยเหลือในการดำเนินงานของผู้ให้บริการเช่น สถาบันการเงิน การป้องกันการทุจริต การเก็บบิล การตลาดและการให้บริการด้านเทคโนโลยี เป็นต้น โดยผู้ให้บริการได้มีการกำหนดผู้ให้บริการเหล่านั้นต้องใช้ข้อมูลของผู้ใช้บริการสำหรับการให้บริการที่จำเป็นที่จะตอบสนองการใช้งานแก่ผู้ให้บริการเท่านั้น

• สถาบันการเงินที่เป็นคู่ค้ากับทางผู้ให้บริการ

•บริษัทที่ผู้ให้บริการมีแผนการที่จะควบรวมกิจการด้วยหรือว่าที่จะซื้อผู้ให้บริการ โดยที่จะมีการบอกกล่าวล่วงหน้าให้ผู้ใช้บริการทราบในกรณีดังกล่าว

• ที่ปรึกษา / ผู้เชี่ยวชาญ เช่น ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย หรือ ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ ตามแต่กรณี

• การบังคับใช้ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ประกาศจากทางรัฐบาล เจ้าหน้าที่ราชการ หรือบุคคลที่สามต่อเมื่อ

- ผู้ให้บริการต้องทำตามคำสั่งศาล หมายศาล หรือว่าตามกระบวนการด้านกฎหมาย

- ผู้ให้บริการเชื่อว่าการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มีการทำร้ายหรือว่าสูญเสียทรัพย์สิน, เพื่อที่จะรายงานการกระทำที่น่าสงสัย หรือเพื่อที่จะสืบสวนการละเมิดข้องตกลงผู้ใช้ของผู้ให้บริการ

• บุคคลที่สามที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้พัฒนาเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน และ / หรือ ระบบงานของผู้ให้บริการ ธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นๆ ที่ท่านมีธุรกรรมร่วม ผู้ใช้บริการ e - KYC ของผู้ให้บริการ

ถ้าผู้ใช้บริการได้สร้างบัญชีขอรับบริการของผู้ใช้บริการผ่านบุคคลที่สามหรือผ่านช่องทางแอพลิเคชั่นของบุคคลที่สามก็ดี ข้อมูลต่างๆที่ผู้ใช้บริการระบุในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ (ที่ไม่ได้ทำผ่านทางผู้ให้บริการโดยตรง) จะถูกเปิดเผยกับเจ้าของของเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ เพราะฉะนั้นข้อมูลของผู้ใช้บริการจะอยู่ภายใต้นโยบายส่วนตัวของสถานที่ให้บริการดังกล่าวเช่นกัน

ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

ผู้ให้บริการอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของผู้ให้บริการ เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ผู้ให้บริการจะดูแลให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็นและเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ

การใช้คุกกี้ของผู้ให้บริการ

เวลาที่ผู้ใช้บริการเข้าเว็บไซต์หรือช่องทางการให้บริการของผู้ให้บริการนั้น ทางผู้ให้บริการหรือบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของทางผู้ให้บริการอาจจะทำการใส่ไฟล์ขนาดเล็กๆ ที่เรียกว่าคุกกี้หรือ pixel tags ลงบนคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมืออื่นๆของผู้ใช้บริการ ผู้ให้บริการทำสิ่งนี้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

• ทำให้รู้ว่าผู้ใช้บริการคือลูกค้าของผู้ให้บริการผ่านช่องทางเว็บไซต์ coins.co.th

• เปลี่ยนแปลงบริการ ข้อมูล และการโฆษณา ของผู้ให้บริการผ่านช่องทางเว็บไซต์ coins.co.th

• วัดประสิทธิภาพจากผลของการส่งเสริมการขาย

• เก็บข้อมูลซึ่งเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ ของผู้ใช้บริการเพื่อบรรเทาความเสี่ยงและช่วยปกป้องการหลอกลวง และเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อใจได้ให้กับทางผู้ใช้บริการ

ผู้ให้บริการใช้ session และ persistent คุกกี้เวลาที่ผู้ใช้บริการเข้ามาที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ session คุกกี้จะหมดอายุและไม่มีผลเมื่อผู้ใช้บริการได้ออกจากบัญชีของผู้ใช้บริการหรือได้ทำการปิดบราวเซอร์ persistent คุกกี้จะยังอยู่ในบราวเซอร์ของผู้ใช้บริการจนกว่าผู้ใช้บริการจะลบคุกกี้นั้นทิ้งหรือรอให้คุกกี้นั้นหมดอายุ

ผู้ให้บริการใช้ Local Shared Objects หรือที่เรียกกันว่า “Flash cookies” เพื่อที่จะช่วยเหลือไม่ให้บัญชีของผู้ใช้บริการถูกโจรกรรมทางข้อมูลและเพื่อที่จะตรวจสอบการใช้งานที่ผิดปกติเพื่อที่จะป้องกันการโกงและสนับสนุนเว็บไซต์และการบริการของผู้ให้บริการ

ผู้ให้บริการใช้คุกกี้เพื่อที่จะดูว่ามีข้อมูลอะไรอยู่ในนั้น ผู้ใช้บริการขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธคุกกี้ของผู้ให้บริการถ้าบราวเซอร์หรือ add-on ของผู้ใช้บริการทำได้ แต่การทำเช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทำกับการใช้เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการสามารถดูวิธีการบล็อก ลบ หรือ ปิดคุกกี้ได้ที่เมนู help ของ browser ของผู้ใช้บริการ

ผู้ใช้บริการอาจจะเจอคุกกี้หรือ pixel tags ของ coins.co.th บนเว็บไซต์ที่ผู้ให้บริการไม่ได้ควบคุม ยกตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ใช้บริการดูเว็บเพจหรือใช้แอพพลิเคชั่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบุคคลที่สาม อาจจะมีคุกกี้หรือ pixel tag ที่มาจากเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นนั้นๆ เพราะฉะนั้น บุคคลที่สามนั้นๆ อาจจะใส่คุกกี้หรือ pixel tag ที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของผู้ให้บริการและนโยบายของผู้ให้บริการไม่ได้ครอบคลุมการใช้งานของบุคคลเหล่านั้น

ระยะเวลาการเก็บข้อมูลของผู้ให้บริการ

ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือมีความสัมพันธ์อยู่กับผู้ให้บริการ หรือตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการ ผู้ให้บริการจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นตามระยะเวลาที่จำเป็นตามอายุความ หรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตไว้ เช่น

• จัดเก็บไว้ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายภาษีอากร หรือกฎหมายอื่นๆที่ผู้ให้บริการต้องปฎิบัติตาม โดนมีระยะเวลาจัดเก็บ 5 - 10 ปีนับแต่ยุติความสัมพันธ์ตามแต่กรณี

• จัดเก็บไว้จนการการระงับข้อพิพาท หรือการต่อสู้ในชั้นศาลจะจบสิ้น

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการจะมีการดำเนินการในขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

วิธีที่ผู้ให้บริการเก็บและป้องกันรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ

ภายใต้นโยบายฉบับนี้นั้น ผู้ให้บริการใช้คำว่า “ข้อมูลส่วนตัว” เพื่อที่จะอธิบายข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหนึ่งและสามารถนำมาใช้บ่งเฉพาะถึงคนๆนั้นได้ ผู้ให้บริการไม่ได้มีการพิจารณาข้อมูลส่วนบุคคลที่รวมถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับการระบุตัวตน ที่ซึ่งจะไม่สามารถระบุผู้ใช้เฉพาะได้ ผู้ให้บริการจะพยายามตรวจสอบอย่างรอบคอบตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้นอกเหนือจากวัตถุประสงค์หลัก การถูกลักลอบเข้าถึงข้อมูล การเปิดเผย หรือการทำลาย อย่างใดก็ตามแต่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนตัวของทางผู้ใช้บริการ

ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการในคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการซึ่งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้และที่อื่นใดก็ตามแต่ในโลกนี้ ที่ซึ่งมีเครือข่ายการให้บริการของผู้ให้บริการอยู่และผู้ให้บริการยังมีการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการโดยการตรวจสอบระบบภายใน ไฟฟ้าและวิธีการป้องกันต่างๆ โดยที่ ผู้ให้บริการมีการใช้การป้องกันของคอมพิวเตอร์อย่างเคร่งครัด อาทิเช่น ไฟร์วอล และ การเข้ารหัสข้อมูล ผู้ให้บริการใช้ระบบที่จับต้องได้ในการควบคุมการเข้าถึงที่อยู่และไฟล์ของผู้ให้บริการ และผู้ให้บริการให้อำนาจการเข้าถึงข้อมูลนี้เฉพาะพนักงานของทางผู้ให้บริการที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลนี้เพื่อที่สามารถใช้ดำเนินการงานให้สำเร็จลุล่วงได้

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังนี้

• สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

• สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล แจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

• สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

• สิทธิขอคัดค้าน คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายอนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้

• สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

• สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด

• สิทธิขอถอนความยินยอม ถอนความยินยอมเสียเมื่อใดก็ได้ กรณีตามที่กฎหมายกำหนด

• สิทธิร้องเรียน ร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ผู้ให้บริการอาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากผู้ให้บริการปฏิเสธคำขอข้างต้น ผู้ให้บริการจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

ทั้งนี้ ท่านสามารถดำเนินการขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

อีเมล: Privacy@coins.co.th
เบอร์โทร: 02-038-5038
ที่อยู่ บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด เลขที่ 1 อาคารพาร์คสีลม ห้อง 30.14 ชั้น 29-30 ยูนิต 2901-3001 ถนนคอนแวนต์ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อเพื่อสอบถามปัญหาเกี่ยวกับนโยบายส่วนตัวได้อย่างไร

ถ้าผู้ใช้บริการมีคำถามเกี่ยวกับนโยบายส่วนตัวฉบับนี้ ผู้ใช้บริการสามารถติดต่อผู้ให้บริการได้ผ่านช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าภายในเว็บไซต์หรือสามารถส่งคำถามมายังผู้ให้บริการโดยตรงได้ที่ Privacy@coins.co.th


การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

การฟอกเงินเป็นความผิดร้ายแรงที่ต้องป้องกันและปราบปรามในประเทศส่วนใหญ่ รวมทั้งประเทศไทย ถึงแม่ว่าจะไม่ใช่ความผิดที่ถึงแก่ชีวิต หรือละเมิดความอิสระของบุคคล การฟอกเงินทำให้กระบวนการก่ออาชญากรรมประสบความสำเร็จ และนำไปสู่การทำลายเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

การฟอกเงิน คือ กระบวนการที่ทำให้เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย (หรือเรียกว่า เงินสกปรก) ดูเหมือนได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย (หรือเรียกว่า สะอาด) โดยทั่วไป การฟอกเงินมี 3 ขั้นตอน ได้แก่ การนำเงินผิดกฏหมายเข้าสู่ระบบการเงิน การย้ายเงิน และการรวมเงินเข้าไปในระบบ อันดับแรก เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย จะถูกนำเข้าสู่ระบบการเงิน จากนั้น จะถูกย้ายไปยังที่ต่างๆเพื่อสร้างความสับสน บางครั้งอาจถูกโอนไปยังหลายๆบัญชี สุดท้าย เงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมายนี้จะถูกรวมเข้าไปยังระบบการเงิน โดยการทำธุรกรรมเพิ่มเติมอื่นๆ จนทำให้เงินสกปรกนี้ดูเหมือนสะอาด

บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด จัดอยู่ในกลุ่มสถาบันการเงินอันจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงป้องกันการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย โดยทางบริษัทฯ ได้นำระบบและขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาใช้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ที่จะป้องกันการฟอกเงินและการใช้งานโดยอาชญากรที่อาจนำไปสู่อาชญากรรมทางการเงิน

นโยบายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (AML POLICY)

นโยบายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินของทางบริษัทฯ ถูกออกแบบเพื่อป้องกันการฟอกเงินโดยปฏิบัติตามกฎหมายการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งระบบและการควบคุมเพื่อลดความเสี่ยงของบริษัทฯ ในการถูกใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรม นโยบายนี้ คือมาตรฐานขั้นต่ำที่ต้องปฏิบัติตาม ดังต่อไปนี้:

• การแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานด้าน AML/CTPF ที่มีวุฒิภาวะ ประสบการณ์ และสามารถมีความรับผิดชอบดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ เกณฑ์ และข้อชี้แนะของภาคหน่วยได้ จัดตั้งและรักษาการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยตรวจสอบและจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯ เกี่ยวกับการฟอกเงินและการก่อการร้าย

• จัดตั้งและรักษาการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ การยืนยันตัวตน และขั้นตอน KYC ตามความเสี่ยงที่เหมาะสมของลูกค้า รวมถึงการตรวจสอบและวิเคราะห์ที่ละเอียดมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่อาจมีความเสี่ยงสูงกว่าลูกค้าทั่วไป เช่น ผู้ที่มีความเกี่ยวข้องด้านการเมือง

• จัดตั้งและรักษาระบบและควบคุมติดตามความเสี่ยงของลูกค้า และมีขั้นตอนที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของลูกค้า

• ขั้นตอนสำหรับรายงานการทำธุรกรรมหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัย ทั้งต่อภายในบริษัทฯ และต่อหน่อยงานทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

• มีการจัดเก็บหลักฐานที่เหมาะสม ตามระยะเวลาขั้นต่ำที่กำหนด

• มีการอบรมที่เหมาะสมแก่พนักงานที่เกี่ยวข้อง

นโยบายการงดให้บริการ

บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด ของดการให้บริการแก่บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือมีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายตามที่ได้ระบุไว้ในสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานหรือองค์กรอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ (OFAC) แห่งกรมธนารักษ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ รายชื่อผู้ต้องโทษแห่งสหประชาชาติ

การปฎิบัติตามกฎหมาย

บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจไปตามมาตรฐานสูงสุดทางจริยธรรม กฎหมายและระเบียบข้อบังคับได้รับการเคารพและปฏิบัติตามทุกเมื่อที่ทำได้ และไม่มีการให้บริการแก่บุคคลใดในกรณีที่ทางบริษัทฯ มีเหตุผลเพียงพอที่จะเชื่อว่าธุรกรรมดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกิจกรรมการฟอกเงิน

การร่วมมือกันหน่วยงานรัฐ

ภายในข้อจำกัดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของลูกค้า ทางบริษัทฯ ได้มีความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการที่เหมาะสมในกฎหมาย หากมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฟอกเงิน โดยทางบริษัทฯ อาจมีการให้ความร่วมมือในการเปิดเผยข้อมูลธุรกรรมต่อหน่วยงานรัฐเพื่อปฎิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


เอกสารเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง

บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด ("บริษัท") ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลขอเปิดเผยข้อมูลและการแจ้งความเสี่ยงแก่ลูกค้าของบริษัทเพื่อความโปร่งใสของการดำเนินธุรกิจและเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนเเกี่ยวกับการดูแลทรัพย์สินโดยบริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนด ตามรายละเอียดดังนี้

1. การเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล

บริษัทมีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล (third-party custodian)ได้แก่บริษัท BitGo Trust Company, Inc. โดยผ่านการกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศ United States of America ที่จดทะเบียนจัดตั้ง โดยคุณสามารถดูเว็บไซต์ของผู้ให้บริการ/ข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่ https://www.bitgo.com/

Third Party Custodian
Name of third-party custodian Place of cooperation Regulated country and License Website/Other Information
Bitgo United State of America Regulator: South Dakota Division of Banking
License: South Dakota Trust Charter for Public South Dakota Trust Company To operate as a custodian purpose - built for storing digital assets
https://www.bitgo.com/

2. การเก็บรักษาทรัพย์สิน

บริษัทไม่ได้เป็นสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก และการฝากเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับบริษัทไม่ใช่เงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ทั้งนี้ ในกรณีที่เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินของลูกค้าที่ฝากไว้กับบริษัท ลูกค้าอาจไม่ได้รับทรัพย์สินคืนจากบริษัทครบทั้งจํานวนในทันที

3. การประเมินฐานะทางการเงินของบริษัท

ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะทางการเงินของบริษัทได้จากงบการเงินและผลประกอบการของบริษัทที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของบริษัท นอกจากนี้ควรพิจารณาข้อมูลอื่นๆ ประกอบการตัดสินใจใช้บริการด้วย เช่น คุณภาพของการให้บริการ และการจัดการข้อร้องเรียน เป็นต้น

4. การบริหารความเสี่ยง

ลูกค้าอาจบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับการรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล โดยอาจฝากสินทรัพย์ดิจิทัลในจำนวนที่เพียงพอต่อความประสงค์ในการทำธุรกรรม โดยในส่วนที่เหลือที่ไม่ได้ใช้ในการทำธุรกรรมลูกค้าอาจเก็บไว้ในกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล (wallet) ของตนเอง และก่อนดำเนินการโอนหรือทำธุรกรรม ลูกค้าควรศึกษาวิธีการใช้งาน wallet แต่ละประเภทและวิธีเก็บรักษา private key หรือ password เป็นต้นetc.

5. รายชื่อศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการเชื่อมต่อเพื่อให้บริการ

ในการให้บริการแก่ลูกค้า บริษัทได้เชื่อมต่อกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังต่อไปนี้


No. ชื่อศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ประเทศที่จดทะเบียนจัดตั้ง หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศที่จดทะเบียนจัดตั้ง เว็บไซต์
1. Bitstamp Luxembourg Luxembourg Financial Regulator (CSSF) https://www.bitstamp.net/
2. Binance Australia Australian Transaction Reports and Analysis Centre (AUSTRAC)  https://www.binance.com/en
3. Circle USA U.S. Securities and Exchange Commission https://www.circle.com/en/
4. Crypto.com Singapore Monetary Authority of  Singapore (MAS)  https://crypto.com/exchange/
5. Kraken Australia Australian Transaction Reports and Analysis Centre (AUSTRAC) https://www.kraken.com/
6. Wintermute United Kingdom Financial Conduct Authority (FCA) https://www.wintermute.com/
นโยบายความเป็นส่วนตัว