ประเทศไทยกำลังเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นสู่การเป็นศูนย์กลางสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Hub) และหนึ่งในนวัตกรรมทางการเงินที่สำคัญซึ่งสะท้อนทิศทางนี้คือ "G-Token" (Government Token). G-Token ไม่ใช่สกุลเงินดิจิทัลใหม่ แต่เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่ภาครัฐพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนและส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับประชาชนในวงกว้าง
ทำความเข้าใจ G-Token: ลักษณะทางเทคนิคและกฎหมาย
G-Token หรือ โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล ออกโดยกระทรวงการคลัง จัดเป็นตราสารหนี้ (debt instrument) ประเภทหนึ่ง ผู้ถือ G-Token จะมีสิทธิในการได้รับคืนเงินต้นพร้อมผลตอบแทนตามอัตราและเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล แต่ G-Token จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนหรือระบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology - DLT) ในการบันทึกและบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการระดมทุนภาครัฐภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548
สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือ G-Token ไม่ได้รับการสนับสนุน ให้ใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment - MOP) นโยบายจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความชัดเจนในประเด็นนี้
ช่องทางการเข้าถึงและการลงทุนใน G-Token
ตามแนวทางที่เปิดเผยโดยสำนักงาน ก.ล.ต. ประชาชนและผู้ลงทุนจะสามารถเข้าถึง G-Token ได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้:
- ตลาดแรก (Primary Market): การจองซื้อ G-Token โดยตรงจากผู้ออก (กระทรวงการคลัง) ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (เช่น ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล, นายหน้า/ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล) และผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (บริษัทหลักทรัพย์) ที่ให้บริการ
- ตลาดรอง (Secondary Market): การซื้อขายเปลี่ยนมือ G-Token ภายหลังจากที่โทเคนได้เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลแล้ว
เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมสภาพคล่อง ก.ล.ต. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น:
- การยกเว้นการขอใบอนุญาตเพิ่มเติม: ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตเพิ่มเติมเพื่อให้บริการเกี่ยวกับ G-Token
- การอนุญาตสำหรับบริษัทหลักทรัพย์: บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สามารถให้บริการ G-Token ได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม

บทบาทของ G-Token ต่อการพัฒนาตลาดและการรวมกลุ่มทางการเงิน (Financial Inclusion)
G-Token ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือระดมทุนใหม่ของภาครัฐ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการ:
- ส่งเสริมความรู้ทางการเงินดิจิทัล: เป็น "ประตูบานแรก" ให้ประชาชน โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยและมือใหม่ ได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผลิตภัณฑ์ที่ออกโดยรัฐบาล ซึ่งมีความเสี่ยงที่รับรู้ได้และเข้าใจง่ายกว่า
- เพิ่มทางเลือกในการลงทุน: สร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ที่ผสมผสานความมั่นคงของตราสารหนี้ภาครัฐเข้ากับนวัตกรรมของเทคโนโลยีดิจิทัล
- กระตุ้นตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล: การมี G-Token อาจช่วยเพิ่มปริมาณการซื้อขายและผู้ใช้งานในระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยให้คึกคักยิ่งขึ้น
สถานะปัจจุบันและความคืบหน้าด้านกฎระเบียบ (ข้อมูล ณ ต้นเดือนมิถุนายน 2568)
- มติคณะรัฐมนตรี: เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงการคลังดำเนินการออกและบริหารจัดการ G-Token
- การดำเนินการของ ก.ล.ต.: คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้เห็นชอบในหลักการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับ G-Token (มีนาคม-พฤษภาคม 2568) และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเกี่ยวกับร่างประกาศที่เกี่ยวข้อง 6 ฉบับ (เอกสารรับฟังความคิดเห็น สรน. 17/2568) ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาไปเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568
G-Token ถือเป็นพัฒนาการที่น่าสนใจในภูมิทัศน์ทางการเงินของประเทศไทย เป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งภาครัฐในการระดมทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ลงทุนในการเข้าถึงทางเลือกการลงทุนใหม่ๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ การเกิดขึ้นของ G-Token จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมทางการเงินดิจิทัลในภูมิภาค