เคยสงสัยไหมว่าอะไรทำให้ BTC มีค่าหรือเป็นสิ่งที่ควรค่าในการลงทุน? ทำไม Ethereum ถึงมีค่ามากในตอนนี้? เราจะมาเจาะลึกถึงสิ่งที่ทำให้คริปโทเหล่านี้มีมูลค่า
โดยทั่วไปแล้วสกุลเงินจะมีสีและขนาดต่างๆ กัน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในสกุลเงินเหล่านี้คือวิธีการหามูลค่าของสกุลเงินเหล่านี้
ตัวอย่างเช่น เงินบาทของไทยมีอัตราแลกเปลี่ยนเป็นดอลลาร์สหรัฐและแบบเดียวกัน จึงทำให้การซื้อขายและทำธุรกิจในต่างประเทศง่ายกว่าการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยนม ไข่ หรือผลผลิตจากสัตว์
มูลค่าของสกุลเงินมาจากที่ใด?
ย้อนกลับไปในปี 1944 ภายใต้ข้อตกลง Bretton Woods ทองคำถูกใช้เป็นหลักประกันของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยมีมูลค่า 35 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ สกุลเงินอื่น ๆในโลกถูกตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ การตรึงเงินดอลลาร์สหรัฐกับทองคำเป็นการป้องกันการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐระหว่างการเติบโตระหว่างประเทศ
ข้อตกลง Bretton Woods สิ้นสุดลงในปี 1971 เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามลดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นทองคำ ซึ่งทำให้ธนาคารดำเนินการใน Fort Knox ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาทองคำของสหรัฐฯ เมื่อทุกคนต้องการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐกลับเป็นทองคำ แต่ที่ Fort Knox มีทองคำไม่เพียงพอ ในที่สุดจึงทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ เลิกตรึงเงินดอลลาร์สหรัฐจากทองคำ
มูลค่าของสิ่งต่างๆ มาจากที่ใด
สิ่งที่เรามีอยู่ส่วนใหญ่คงคุณค่าไว้เพียงเพราะผู้คนจำนวนมากเห็นพ้องต้องกันว่าสิ่งนั้นมีค่า แม้ว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะไม่ได้ถูกตรึงไว้กับทองคำใน Fort Knox อีกต่อไป แต่สกุลเงินของหลายๆ ประเทศยังคงถูกตรึงไว้กับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเห็นพ้องกันว่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่า ตราบใดที่มีคนจำนวนมากพอเห็นพ้องต้องกันว่าสิ่งนั้นมีมูลค่า
นี่คือวิธีหามูลค่าของสกุลเงินดั้งเดิม เช่น ทองคำและเงินดอลลาร์ และยังนำไปใช้กับมูลค่าของงานศิลปะหรือ NFT อีกด้วย ท้ายที่สุดแล้วมันไม่สำคัญว่าเหตุใดผู้คนจึงชอบสิ่งของหรือมีความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของสิ่งนั้น ปัจจัยสำคัญคือความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของสิ่งของนั้นมีอยู่ในปริมาณที่สูงพอถึงจุดที่จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้หรือไม่
จากมุมมองทางเศรษฐกิจ ตราบใดที่ยังมีอุปสงค์และอุปทาน ราคาสำหรับสิ่งต่างๆดังกล่าวจะเป็นราคาที่ผู้คนยินดีจ่าย อย่างไรก็ตาม ราคาจะขึ้นอยู่กับลักษณะของตลาด เช่นเดียวกับสกุลเงินของธนาคารกลาง โทเค็นหรือเหรียญแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจทำให้เหรียญนั้นมีลักษณะเฉพาะ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของสภาวะเงินฝืด หรือเป็นเหรียญที่มีประโยชน์ก็ได้
รูปแบบของสกุลเงินที่ดีคืออะไร?
มีสกุลเงินต่างๆ มากมายในโลกนี้ ในปี 2008 Satoshi Nakamoto ได้เปิดตัว Bitcoin สู่โลก ซึ่งทำให้เปลี่ยนมุมมองของโลกการเงิน อย่างไรก็ตาม สกุลเงินที่ดีมี 5 ลักษณะหลักๆ
ความสอดคล้อง (Fungibility)
เราต้องการให้สกุลเงินของเราสามารถใช้ร่วมกันได้ ในกรณีนี้เช่น 100 บาทจะเท่ากับ 100 บาทโดยที่ต้องไม่นับรวมกับธนบัตร หรือในอีกตัวอย่างหนึ่งคือ BTC เป็นสกุลเงินที่ดีกว่าสกุลอื่น เนื่องจาก 1 BTC เท่ากับ 1 BTC เสมอ แต่เงินแต่ละสกุลก็จะมีเอกลักษณ์และแตกต่างกัน
ทนทาน (Durable)
สกุลเงินควรทนทานพอต่อการใช้ซ้ำ เนื่องจากสกุลเงินจะถูกใช้ผ่านมือและอุปกรณ์จำนวนมากตัวอย่างในกรณีนี้เช่น ดอลลาร์สหรัฐจะเป็นสกุลเงินที่ดีกว่าดอกทิวลิป
ความพกพาง่าย (Portable)
สกุลเงินควรจะเคลื่อนย้ายได้ง่ายเพราะเราไม่ต้องการที่จะแบกทองคำแท่งไปมา เนื่องจากมันหนักและเหนื่อย ตัวอย่างในกรณีนี้เช่น สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) จะเป็นสกุลเงินที่ดีกว่าทองคำแท่งและเหรียญเงิน
เป็นที่รู้จัก(Recognizable)
สกุลเงินในอุดมคติควรเป็นที่รู้จักของผู้อื่น เพื่อให้พวกเขายอมรับและไม่ต้องใช้ความพยายามในการตัดสินมูลค่าของมัน ตัวอย่างในกรณีนี้เช่น ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ดีกว่าโบลิวาร์เวเนซุเอลา
มั่นคง (Stable)
คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดของสกุลเงินน่าจะเป็นความเสถียร เราต้องการสกุลเงินที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเมื่อเทียบกับสินค้าและบริการที่มีการเปลี่ยนไป ตัวอย่างในกรณีนี้เช่น USDC เป็นสกุลเงินที่ดีกว่า BTC มาก
สินทรัพย์ดิจิทัลอาจมีประโยชน์ในฐานะสกุลเงินและในบางกรณี สินทรัพย์ดิจิทัลบางอย่างทำงานได้ดีกว่าสกุลเงินดั้งเดิม สินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้บางส่วนมีประโยชน์สำหรับการใช้บริการบางอย่างบนแพลตฟอร์ม หรือการเป็นสมาชิก เช่น การเป็นเจ้าของและเดิมพันโทเค็น $LOOKS บนเว็บไซต์ ซึ่งมอบส่วนแบ่งกำไรจากการขายในตลาดคริปโท หรือการเป็นเจ้าของโทเค็นอาจให้ส่วนลดและได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมจากการซื้อขาย ซึ่งสามารถทำให้โทเค็นเหล่านี้มีค่ามากกว่าสกุลเงินดั้งเดิม
อะไรทำให้ cryptocurrency มีมูลค่า?
ณ จุดนี้ คุณอาจสงสัยว่าจะบอกได้อย่างไรว่าสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่า เราต้องการคนกลุ่มใหญ่มากพอที่จะเห็นพ้องต้องกันว่ามันมีมูลค่าจริง
มูลค่าที่แท้จริงของบิตคอยน์
เมื่อเราซื้อสินค้าหรือบริการ มูลค่าที่แท้จริงบางรูปแบบยึดติดอยู่กับสินค้านั้นๆ ตัวอย่างเช่นชุดข้าววยำไก่แซ่บที่ KFC เริ่มต้นที่ 89 บาท ที่เป็นราคานี้เพราะค่าไก่ ข้าว เครื่องดื่ม และพนักงานในการปรุงอาหารและเสิร์ฟอาหารในมื้อนั้น ดังนั้นเราจึงสันนิษฐานได้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของชุดข้าววยำไก่แซ่บ คือ 89 บาท
เช่นเดียวกับบิตคอยน์ การขุดใช้พลังงานและคุณต้องซื้อเครื่องขุดเพื่อเริ่มการขุดบิตคอยน์ ต้นทุนของนักขุดและทรัพยากรที่จำเป็นในการขุดบิตคอยน์จาก 198 ดอลลาร์ ขยับมาอยู่ที่ 35,404.03 ดอลลาร์โดยเฉลี่ยในการขุด 1 บิตคอยน์ แต่ค่านี้จะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับอัตราค่าไฟฟ้า ความยากของการแก้สมการบิตคอยน์ และต้นทุนของฮาร์ดแวร์ ค่าใช้จ่ายในการขุดบิตคอยน์ไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ส่งผลต่อมูลค่าที่แท้จริงของบิตคอยน์ แต่ยังรวมถึงการมีอยู่อย่างจำกัดของบิตคอยน์
การมีอยู่อย่างจำกัดของโทเค็น (Scarcity of token)
การมีอยู่อย่างจำกัดของสินทรัพย์ใด ๆ สามารถเพิ่มมูลค่าที่แท้จริงได้ เช่น ทองคำซึ่งมีจำนวนจำกัด จึงทำให้มีราคาสูงกว่าแร่เงิน แม้ว่าแร่เงินจะมีการใช้งานมากกว่าก็ตาม ว่ากันว่าทองคำทั้งโลกทั้งที่ขุดแล้วและยังไม่ขุดจะเทียบเท่ากับสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกเพียง 3 สระ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 244,000 เมตริกตัน
ตัวอย่างเช่น Bitcoin มีอุปทานสูงสุด 21 ล้านเหรียญ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีใครขุด สร้าง พิมพ์ หรือออก Bitcoins มากกว่า 21 ล้านเหรียญได้
เมื่อเทียบกับ fiat ธนาคารกลางสามารถพิมพ์เงินได้ตามต้องการ ซึ่งจะทำให้เกิดเงินเฟ้อเนื่องจากการหลั่งไหลของเงิน fiat ใหม่ๆที่ถูกเพิ่มเข้ามาในระบบเศรษฐกิจ สกุลเงินดิจิทัลส่วนใหญ่มีการจำกัดอุปทานสูงสุดในบล็อกเชน และเมื่ออุปทานนี้หมดลง จะไม่มีการขุดหรือผลิตเหรียญหรือโทเค็นใหม่
อย่างไรก็ตาม อาจมีการแยก Bitcoin เพิ่มเติมออกมาเป็น Bitcoin Cash (BCH), Bitcoin Gold (BTG) และ Bitcoin SV (BSV) แต่จะไม่ใช่ Bitcoin อีกต่อไป
คริปโทเคอเรนซี่เพื่อการเก็บมูลค่าและสร้างประโยชน์
หนึ่งในหน้าที่ของสกุลเงินที่เราพูดถึงคือความสามารถในการจัดเก็บมูลค่าเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในฐานะตัวกลางของการแลกเปลี่ยน
มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นผลมาจากปริมาณอุปสงค์และอุปทานในการแลกเปลี่ยน แต่ Utility หรือประโยชน์ของโทเค็นเหล่านี้อยู่ในโปรโตคอล DeFi หรือ Dapps หากโทเค็นมีประโยชน์หรืออรรถประโยชน์มากใน DeFi อาจส่งผลต่อมูลค่าของเหรียญโทเค็นนั้นอย่างมาก
หากคุณชนะการแข่งขัน คุณมีโอกาสที่จะได้รับรางวัลเป็นเงินสด แต่ตอนนี้ลองนึกดูว่าหากคุณได้รับรางวัล P50,000 ในบัตรของขวัญ Amazon เทียบกับ P50,000 ในบัตรกำนัลสำหรับร้านค้าทั่วไปในไทย บัตรของขวัญ Amazon มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีมูลค่ามากกว่าเมื่อเทียบกับมูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับร้านค้าทั่วไปในไทย แม้ว่าทั้งคู่จะมีราคา 50,0000 ดอลลาร์สหรัฐฯเท่ากันก็ตาม ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ Amazon ขายสินค้าที่หลากหลายกว่าและเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
ตัวอย่างเช่น Ether (ETH) เป็นโทเค็นที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในโปรโตคอล DeFi จำนวนมาก การใช้งาน Dapps เช่น SushiSwap ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน ETH เป็นโทเค็นอื่น ๆ และค่าธรรมเนียมในโปรโตคอลทั้งหมดจะถูกจ่ายเป็น ETH ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
เมื่อใช้งาน Proof-of-Stake ของ Ethereum ผู้ใช้ที่ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมด้วย ETH 32 เหรียญ จะสามารถอนุมัติบล็อกและธุรกรรมได้และจะได้รับรางวัลจากการขุดเป็นการตอบแทน
มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถสร้างมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลได้ และคุณสามารถเริ่มต้นศึกษาที่ Coins Academy ที่ซึ่งเรากำลังสร้างบทความและเนื้อหาต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจสกุลเงินดิจิทัลได้ง่ายขึ้น ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุนใด ๆ โปรดเข้าใจว่าการลงทุนเหล่านี้มีความเสี่ยง และคุณควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน