Swing Trading กับ Scalping เป็น 2 เทคนิคทำกำไรในตลาดที่นักเทรดนิยิมใช้กัน โดยเราจะมาเปรียบเทียบให้ดูในบทความนี้ เพื่อค้นหาว่าแนวทางไหนเหมาะกับคุณ!
สั้นๆง่ายๆได้ใจความ
- ด้วยความผันผวนของคริปโท ทำให้การสวิงเทรดและการสคัลปิงได้รับความนิยมในการเทรด
- Scalping โฟกัสไปที่การเทรดระยะสั้น โดยทำการเทรดบ่อยๆเพื่อทำกำไร
- Swing Trading โฟกัสไปที่การเทรดที่ยาวนานกว่า โดยไม่จำเป็นต้องเทรดบ่อยๆเพื่อทำกำไร
- ถ้าการเทรดเสี่ยงเกินไปสำหรับคุณ ให้ลองใช้การทำ yield farming, staking, และวิธีการอื่นๆ เพื่อทำเงินแบบ passive income แทน
จะมีนักลงทุนในคริปโทแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือกลุ่มที่ซื้อคริปโทเพื่อถือระยะยาวเพราะพวกเขาเชื่อในศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของคริปโทในการเปลี่ยนแปลงโล นักลงทุนจะดูที่ปัจจัยทางพื้นฐานที่กระทบกับคริปโทโดยตรง เช่น ใครเป็นผู้ก่อตั้ง การใช้งานจริง และการพัฒนาในอนาคต
ในขณะที่ก็จะมีนักเทรดที่ซื้อๆขายๆ ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม จะมีข้อแตกต่างของการเทรดอยู่ ด้วยความผันผวนของคริปโท สวิงเทรดและสคิลปิงจึงเป็นสองกลยุทธ์ที่คนนิยมใช้กันในทุกวันนี้
เพื่อประสบความสำเร็จในการเทรดในระยะยาว คุณจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่เข้ากับจริตและความเสี่ยงของคุณ หากคุณเป็นนักเทรดมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้กลยุทธ์ใหม่ๆ สิ่งนี้อาจเหมาะกับคุณ
การสคัลปิงคืออะไร
เป้าหมายของการสคัลปิงคือการทำเงินจากความผันผวนเล็กน้อยของราคาคริปโทในระหว่างวัน
สคิลปิงเป็นการเทรดรายวันซึ่งมีการเทรดจำนวนมากในระยะสั้นมากๆ ระหว่างไม่กี่วินาทีไปจนถึงไม่กี่นาที การถือสถานะแบบสั้นๆเหล่านี้หมายถึงการทำกำไรเล็กๆน้อยๆ แต่เพื่อการทำกำไรสูงสุด สคัลปิงจะเทรดด้วยความถี่มากๆในระหว่างวัน
โดยหลักการแล้ว นักเทรดสคัลปิงจะทำเงินจากส่วนต่างเล็กน้อยระหว่าง bid กับ ask โอกาสเหล่านี้มีจำนวนมากกว่าเมื่อเทียบกับการเคลื่อนไหวของราคาครั้งใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดในช่วงภาวะปกติแต่ปกติตลาดจะผันผวนเสมอ
เราจะเริ่มเทรดแบบสคัลปิงได้อย่างไร
การเทรดแบบสคัลปิงต้องใช้เวลาและความใส่ใจในการดูและทำความเข้าใจตลาด นักเทรดแบบสคัลปิงต้องมีความสามารถในการตัดสินใจภายใต้ความกดดันและคิดด้วยตนเองเพื่อประสบความสำเร็จในตลาด เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่านักเทรดที่ใจร้อนคือนักเก็งกำไรที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากพวกเขาขายทิ้งอย่างรวดเร็วเมื่อได้กำไร
ปัจจัยอื่นที่สำคัญคือการมีโบรคเกอร์ที่คิดค่าธรรมเนียมการเทรดต่ำเพราะสคัลเปอร์จะต้องเทรดจำนวนมากในแต่ละวัน ถ้าโบรคเกอร์คิดค่าธรรมเนียมสูงจะลดกำไรของสคัลเปอร์ไปอย่างมาก
การสวิงเทรดคืออะไร
เป้าหมายของการสวิงเทรดคือจดจำเทรนด์ให้ได้ และเทรดไปตามเทรนด์ เช่น นักสวิงเทรดจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มองเห็นเทรนด์ชัดเจน และเริ่มทำกำไรเมื่อราคาเปลี่ยนเทรนด์อีกครั้ง
นักสวิงเทรดส่วนใหญ่จะเทรดตามเทรนด์ของตลาดโดยรวม เช่น เมื่อราคาเบรคเส้นแนวรับลงมา นักเทรดยังสามารถชอร์ตสินทรัพย์เพื่อลงทุนในขาลงได้ ตรงกันข้าม เมื่อราคาสินทรัพย์เบรคเส้นแนวต้าน นักเทรดสามารถเทรดขาขึ้นตามไปได้ เพื่อทำกำไรจากตลาดขาขึ้น
ไม่เหมือนนักสคัลเปอร์ นักสวิงเทรดสามารถถือสถานะไว้ได้มากกว่าหนึ่งวัน หรือหลายสัปดาห์ หรือบางครั้งก็เป็นเดือนเพื่อทำกำไรสูงสุด
เราจะเริ่มสวิงเทรดได้อย่างไร
การสวิงเทรดต้องการความอดทนเพื่อรอราคาที่เหมาะสม ใช้ไทม์ไลน์ของกราฟที่นานกว่า เช่น รายเดือน หรือรายปี และใช้อินดิเคเตอร์ เช่น ฟิโบนัคชี่ RSI (relative strength index) เส้นแนวรับ แนวต้าน และเทคนิคอื่นๆ เพื่อหาจุดเข้าซื้อและจุดขายทำกำไรของพวกเขา
ด้วยการเทรดที่น้อยลง นักเทรดแบบสวิงจะรักษาค่าธรรมเนียมการเทรดให้น้อยที่สุด ซึ่งช่วยให้พวกเขามีอัตรากำไรที่สูงขึ้น
สวิงเทรดเป็นสไตล์การเทรดที่นิยมในนักเทรดแบบพาร์ทไทม์ ซึ่งสามารถใช้เวลาพักเที่ยงในการดูตลาด เพราะว่าสวิงเทรดใช้กรอบเวลาที่นานกว่าและใช้ความอดทนที่มากกว่า เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่ต้องการเทรดในสถานการณ์ที่กดดันที่ซึ่งต้องใช้การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
การเทรดแนวไหนให้กำไรดีกว่า
ทั้งสคัลปิงและสวิงเทรดเป็นกลยุทธ์ที่ทำกำไรได้ ความแตกต่างระหว่างการทำกำไรของทั้งสองกลยุทธ์ขึ้นกับการจัดการความเสี่ยงของนักเทรด
นักสวิงเทรดมีความเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสคัลเปอร์เพราะว่ามีการเทรดที่น้อยกว่า ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาด และลดค่าธรรมเนียมการเทรดลงด้วย
ในอีกด้านหนึ่ง สคัลเปอร์ได้เปรียบในการลดความเสี่ยงลงเพราะถ้าตลาดไม่ไปไหน ด้วยกลยุทธ์นี้ นักเทรดสามารถออกจากสถานะได้อย่างรวดเร็ว และลดความเสี่ยงที่ขาดทุนมากขึ้นอีกได้ ในขณะที่นักสวิงเทรดมีความเสี่ยงมากขึ้นต่อความผันผวนในระยะสั้นในกรณีที่ราคาเหรียญลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
ไม่มีกลยุทธ์การเทรดใดที่สมบูรณ์แบบ มันมีบางสิ่งที่ต้องตัดสินใจก่อนที่คุณจะเป็นสคัลเปอร์หรือนักสวิงเทรด
สิ่งที่ต้องตัดสินใจก่อนเป็นสคัลเปอร์หรือนักสวิงเทรด
ในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอจากการเทรดแบบสวิงหรือการสคัลปิง จำเป็นต้องมีความทุ่มเท ความพยายาม และความรู้อย่างมาก แต่การรู้แนวคิดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ ประสบการณ์เชิงปฏิบัติยังเป็นส่วนสำคัญในการค้นหาว่ากลยุทธ์การเทรดใดให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ
เนื่องจากกลยุทธ์การเทรดทั้งสองมีความแตกต่างกันเล็กน้อย การรู้จักการอดทนต่อความเครียด จังหวะเวลาในการเทรด เวลาว่าง และความยืดหยุ่นจะช่วยลดความเสี่ยงของคุณในการใช้กลยุทธ์เหล่านี้
โปรดจำไว้ว่านักลงทุนแต่ละคนมีความแตกต่างกัน อะไรที่เหมาะกับคุณอาจจะไม่ได้เหมาะกับเพื่อนคุณ แต่การตระหนักถึงความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณมีความคิดที่ดีขึ้นว่ารูปแบบการลงทุนหรือการเทรดใดที่เหมาะกับคุณ