เครือข่ายบล็อกเชนนั้นมีกลไกการทำงานเบื้องหลัง ที่ทำให้ทั้งเครือข่ายสามารถตรวจสอบและรับรองความถูกต้องร่วมกันได้เมื่อเกิดธุรกรรมขึ้นในระบบ ระบบนี้เรียกว่า ‘Consensus Algorithm’ หรือ “ระบบฉันทามติ”
สั้นๆง่ายๆได้ใจความ
- Proof of Work (PoW) คือการตรวจสอบที่ต้องใช้พลังงานในการประมวลผล
- Proof of Stake (PoS) คือการวางสินทรัพย์ค้ำประกันเพื่อรับสิทธิ์ในการตรวจสอบธุรกรรม
- Proof of Authority (PoA) คือการใช้ “ชื่อเสียง” ของผู้ตรวจสอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของระบบ
การตรวจสอบข้อมูลบนบล็อกเชนนั้นมีระบบฉันทามติหลายรูปแบบ
Proof of Work (PoW) คือการตรวจสอบที่ต้องใช้พลังงานในการประมวลผลหรือฉันทามติที่คอมพิวเตอร์ในเครือข่ายต้องแข่งกันแก้ไขสมการและถอดรหัสเพื่อยืนยันความถูกต้องของธุรกรรม และสร้างบล็อกใหม่ขึ้นบนบล็อกเชน โดยนักขุดจะได้รับ “รางวัล” เมื่อมีการแก้โจทย์สมการ หรือแก้ Hash ของแต่ละบล็อกได้สำเร็จ ตัวอย่างบล็อกเชนที่ใช้ PoW เช่น บิตคอยน์
Proof of Stake (PoS) คือการวางสินทรัพย์ค้ำประกันเพื่อรับสิทธิ์ในการตรวจสอบธุรกรรมหรือระบบที่ผู้ขุดจะต้องวางสินทรัพย์หรือเงินเดิมพัน (Stake) เพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกเลือกเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม ตัวอย่างบล็อกเชนที่ใช้ PoS เช่น Cardano
Proof of Authority (PoA) คือการใช้ “ชื่อเสียง” ของผู้ตรวจสอบเพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือของระบบ หรือระบบที่ทำงานโดยการเลือกผู้ตรวจสอบจากชื่อเสียง ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลให้ทราบว่าเป็นใครหรือองค์กรใด แต่ระบบดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นระบบที่ถูกมองว่ามีความ Decentralized ต่ำที่สุด ตัวอย่างบล็อกเชนที่ใช้ PoA เช่น Vechain